fbpx

การโยนดอกไม้ในงานแต่งสำคัญไหม เลือกยังไงให้ถูกใจ?

หนึ่งในช่วงเวลาที่แขกในงานแต่งรอคอยไม่แพ้ช่วงเวลาอื่นๆ คงหนีไม่พ้นช่วงที่เจ้าสาวโยนดอกไม้ เรียกว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสนุกสนาน และเป็นการส่งต่อความสุขให้คนในงาน ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าการโยนดอกไม้งานแต่งเริ่มต้นมาจากไหน สำคัญหรือไม่ และควรเลือกดอกไม้อย่างไรเพื่อให้เหมาะสมและตรงใจเจ้าสาวมากที่สุด มาร่วมไขข้อสงสัยให้ครบทุกข้อกันได้ในบทความนี้

การโยนช่อดอกไม้งานแต่งเริ่มมีขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?

การโยนช่อดอกไม้งานแต่งเริ่มมีขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? 

ธรรมเนียมการโยนช่อดอกไม้งานแต่งเกิดขึ้นที่อังกฤษในยุคคริสต์ทศวรรษ 1800 มีความเชื่อที่ว่าเจ้าสาวในงานมงคลสมรสนั้นเต็มไปด้วยโชคดี ใครที่ได้สัมผัสเจ้าสาวแม้เพียงนิดเดียวก็จะได้รับโชคไปด้วย เหล่าสาวโสดช่างฝันผู้มาร่วมงานแต่งจึงมักเข้าไปรุมเจ้าสาว เพื่อยื่นมือเข้าไปจับตัวหรือพยายามดึงชิ้นส่วนเครื่องแต่งกายเจ้าสาว ทำให้เจ้าสาวตกใจจนโยนดอกไม้ในมือทิ้ง ด้วยเหตุการณ์นี้จึงได้มีการจัดพิธีให้เจ้าสาวได้โยนดอกไม้ เพื่อให้ผู้ร่วมงานรอลุ้นโชคจากดอกไม้แทนนั่นเอง

แต่หลังจากเวลาผ่านไป ธรรมเนียมการโยนดอกไม้งานแต่งกลายเป็นธรรมเนียมสนุกๆ ในงานแต่งเพื่อสร้างสีสัน ความสนุก ความประทับใจให้กับผู้ที่มาร่วมงานมากกว่าเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งแน่นอนว่าหากคุณอยากให้บรรยากาศในงานดูสนุกสนานการจัดพิธิโยนช่อดอกไม้เข้าไปก็ช่วยสร้างเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี

ดอกไหนดี? มาดูความหมายของดอกไม้สำหรับจัดช่อดอกไม้เจ้าสาว 

ช่อดอกไม้ของเจ้าสาวไม่ใช่ว่าจะใช้ดอกอะไรก็ได้ มีดอกไม้บางชนิดที่ถือเป็นดอกไม้ที่ห้ามใช้ในงานแต่ง เช่น ดอกลีลาวดีที่มีชื่อเรียกเดิมว่าดอกลั่นทม หมายถึงความเศร้าโศก ดอกชบาที่ในอดีตใช้คล้องคอผู้หญิงที่มีชู้เป็นการประจาน และดอกไม้สีทองซึ่งมีความหมายเป็นการด่าทอ 
สำหรับดอกไม้ที่นิยมนำมาใช้จัดช่อดอกไม้เจ้าสาวก็มีหลากหลายชนิด แต่โดยส่วนใหญ่มักเลือกดอกไม้ที่หาได้ง่ายที่มีในทุกฤดู เป็นดอกไม้ที่สดนาน ไม่เฉาง่าย เข้ากับชุด และมีความหมายดี เราลองมาดูกันว่าช่อดอกไม้เจ้าสาวที่มักนิยมใช้จะมีดอกอะไรบ้าง

โยนช่อดอกกุหลาบงานแต่ง

ดอกกุหลาบ

หากนึกถึงช่อดอกไม้เจ้าสาวสีขาว หลายคนก็คงนึกถึงช่อดอกกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์ แต่จริงๆ แล้วดอกกุหลาบแต่ละสีก็มีความหมายดีๆ ต่างกันไป 

  • สีขาว แสดงถึง ความรักบริสุทธิ์ และรักนิรันดร์
  • สีแดง แสดงถึง ความปราถนา การสารภาพรัก และรักโรแมนติก
  • สีชมพู แสดงถึง ความอ่อนหวาน ความอ่อนโยน และคำขอบคุณ
  • สีเหลือง แสดงถึง มิตรภาพ ความอบอุ่น และความห่วงใย
  • สีครีม แสดงถึง ความห่วงใย
  • สีส้ม แสดงถึง ความหลงไหล ความชื่นชม และความตื่นเต้น
  • สีม่วง แสดงถึง เสน่ห์ และความสง่างาม
โยนช่อดอกเยอบีร่างานแต่ง

เยอบีร่า

ดอกเยอบีร่าเป็นอีกดอกไม้หลากหลายสีสันที่เติมความสดใสให้กับผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี จึงนิยมนำมาใช้ในงานมงคล รวมถึงงานแต่งงานด้วย โดยแต่ละสีของดอกไม้ก็จะให้ความหมายไปในทิศทางบวก จึงเหมาะกับเจ้าสาวที่อยากได้ช่อดอกไม้งานแต่งที่มีความหมายดี 

  • สีขาว แสดงถึง ความจริงใจ บริสุทธิ์ เรียบง่าย และไร้เดียงสา
  • สีแดง แสดงถึง รักครั้งแรก  รักล้นใจ และการตกหลุมรัก
  • สีชมพู แสดงถึง ความชื่นชมยินดี ยกย่อง และนับถือ 
  • สีเหลือง แสดงถึง ความสนุกสนาน และความสุข
  • สีส้ม แสดงถึง ความสว่างไสว และความชัดเจน
  • สีม่วง แสดงถึง ความสง่างาม หรูหรา และความเคารพ
โยนช่อดอกคาร์เนชั่นงานแต่ง

ดอกคาร์เนชั่น

ดอกคาร์เนชั่นเป็นอีกหนึ่งดอกไม้ที่เห็นได้บ่อยตามงานรื่นเริง เพราะเป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลอง และการแสดงความยินดี มาดูความหมายของดอกคาร์เนชั่นแต่ละสีกัน

  • สีขาว แสดงถึง ความบริสุทธิ์ ความอ่อนโยน และความศรัทธา
  • สีแดง แสดงถึง ความหลงไหล ความรักลึกซึ้ง และความปราถนาดี
  • สีชมพู แสดงถึง ความรักหวานๆ ที่กำลังผลิบาน 
  • สีส้ม แสดงถึง ความมุ่งมั่น สร้างสรรค์ และความสุข

อย่างไรก็ตาม ดอกคาร์เนชั่นสีเหลืองและสีม่วงมีความหมายแฝงที่ไม่ดีเหมือนสีอื่นๆ จึงไม่นิยมนำมาจัดเป็นช่อดอกไม้เจ้าสาวเท่าใดนัก

  • สีเหลือง แสดงถึง ความผิดหวัง ความทรนง 
  • สีม่วง แสดงถึง ความเปลี่ยนแปลง ความเอาแต่ใจ ความไม่แน่นอน
โยนช่อดอกโบตั๋นงานแต่ง

ดอกโบตั๋น

ดอกโบตั๋นนอกจากจะมีตำแหน่งเป็น ‘ราชาแห่งดอกไม้’ ในวัฒนธรรมจีนแล้ว ยังเป็นตัวแทนแห่งความรัก ความโรแมนติก การแต่งงาน และความมั่งคั่งอีกด้วย ส่วนสีที่นิยมนำมาใช้ในการจัดเป็นช่อดอกไม้เจ้าสาว ได้แก่ สีชมพู สีแดง และสีขาว

  • สีขาว แสดงถึง ความสง่างาม หรือใช้แทนคำขอโทษที่จริงใจ
  • สีแดง แสดงถึง ความรัก ความหลงไหล การให้เกียรติ และความมั่งคั่ง
  • สีชมพู แสดงถึง ความรักโรแมนติก
  • สีเหลือง แสดงถึง การเริ่มต้นใหม่ที่สดใส
โยนช่อดอกลิลลี่งานแต่ง

ดอกลิลลี่

ใครที่อยากได้ช่อดอกไม้เจ้าสาวแบบมินิมอล ลองเลือกเป็นดอกลิลลี่สีขาวที่มีความงดงาม และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยดอกไม้ชนิดนี้จะสื่อถึงความประทับใจ ความนุ่มนวลอ่อนหวาน และความบริสุทธิ์ นอกจากดอกลิลลี่สีขาวแล้ว ยังมีสีอื่นๆ ที่ล้วนแต่มีความหมายดีทั้งสิ้น เช่น 

  • สีขาว แสดงถึง ความจริงใจ ความบริสุทธิ์ ความอาวรณ์ และความหวังดี
  • สีแดง แสดงถึง รักไร้เดียงสา ความอ่อนไหว และความอ่อนหวานของรักแรก
  • สีชมพู แสดงถึง  การได้รับการเติมเต็ม และความรักที่ลงตัว
  • สีเหลือง แสดงถึง ความเป็นห่วง และความอบอุ่น 
  • สีส้ม แสดงถึง ความชื่นชมยินดี และความสนุกสดใส เปี่ยมล้นไปด้วยชีวิตชีวา
  • สีม่วง แสดงถึง ความพิเศษ และโอกาสพิเศษ
โยนช่อดอกเดลฟินเนียมงานแต่ง

ดอกเดลฟินเนียม

ดอกเดลฟินเนียมเป็นดอกไม้รูปทรงเก๋ไก๋คล้ายกับโลมา มีสีม่วงหลากหลายเฉด เมื่อนำมาจัดช่อดอกไม้แล้วสามารถทำให้รอยยิ้มของเจ้าสาวดูสดใสร่าเริงขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะดอกเดลฟินเนียมเป็นตัวแทนของความเบิกบาน ความตั้งใจดี ความกระตือรือร้น และการให้กำลังใจ นอกจากนี้ยังสื่อว่าเป็นคนที่เปิดใจในเรื่องของความรักอีกด้วย

โยนช่อดอกทิวลิปงานแต่ง

ดอกทิวลิป

ดอกไม้ขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยพลังบวก และพลังงานของการมองโลกในแง่ดี เหมาะกับการนำมาจัดเป็นช่อดอกไม้เจ้าสาวไม่ว่าจะเลือกใช้สีชมพู สีขาว สีเหลือง ก็ดูน่ารัก สดใส ทั้งนี้ แต่ละสีของดอกไม้ชนิดนี้ก็จะมีความหมายที่ต่างกัน

  • สีขาว แสดงถึง ความจริงใจ และรักบริสุทธิ์
  • สีแดง แสดงถึง ความรัก และความหลงไหล
  • สีชมพู แสดงถึง ความรัก ความชอบ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นความรักเชิงโรแมนติกเสมอไป
  • สีเหลือง แสดงถึง ความสุขสดชื่น และความชัดเจน
  • สีส้ม แสดงถึง แรงบันดาลใจ กำลังใจ และพลังบวก
  • สีม่วง แสดงถึง ความรุ่งเรือง ความมั่งคั่ง และคำอวยพร

นอกจากดอกทิวลิปทุกสีจะเต็มไปด้วยความหมายดีๆ แล้ว ขนาดที่กะทัดรัดของดอกไม้ชนิดนี้ยังเหมาะกับการจัดช่อดอกไม้เจ้าสาวมินิมอล เรียบๆ แต่น่ารักเข้ากันได้ดีกับงานแต่งสไตล์มินิมอลแบบเรียบง่ายอีกด้วย

โยนช่อดอกรานังคูลัสงานแต่ง

ดอกรานังคูลัส

ดอกรานังคูลัสมีรูปทรงคล้ายกับดอกกุหลาบ มีหลากหลายสีสัน และมีความหมายที่ดีไม่แพ้กัน โดยทั่วไปเป็นสัญลักษณ์ของเสน่ห์ และความดึงดูดใจ

  • สีขาว แสดงถึง เสน่ห์ ความดึงดูดใจ ความสง่างาม และรักบริสุทธิ์
  • สีแดง แสดงถึง ความรัก ความหลงไหล และความโรแมนติก
  • สีชมพู แสดงถึง ความรักที่อ่อนโยน 
  • สีเหลือง แสดงถึง ความสุข ความปิติยินดี และพลังบวก
  • สีส้ม แสดงถึง พลังบวก และความสุข
  • สีม่วง แสดงถึง ความงาม ความลึกลับ และความพิเศษ
โยนช่อดอกกล้วยไม้งานแต่ง

ดอกกล้วยไม้

ดอกกล้วยไม้มีจำนวนมากเกือบ 30,000 สายพันธุ์ จึงเต็มไปด้วยสีสันแตกต่างกันมากมาย และแต่ละสีก็ความหมายเฉพาะตัว 

  • สีขาว แสดงถึง ความงดงาม ไร้เดียงสา
  • สีแดง แสดงถึง ความหลงไหล ความปราถนา และความกล้าหาญ
  • สีชมพู แสดงถึง ความนุ่มนวล และความเบิกบาน
  • สีเหลือง แสดงถึง การเริ่มต้นใหม่ และความสุขเบิกบาน
  • สีส้ม แสดงถึง ความกระตือรือร้น และความภาคภูมิใจ
  • สีม่วง แสดงถึง ความชื่นชม และความเคารพ

ทรงไหนดี? ว่าด้วยเรื่องทรงของช่อดอกไม้เจ้าสาว 

นอกจากชนิดและสีของดอกไม้ที่เลือกใช้แล้ว รูปทรงของช่อดอกไม้ก็สำคัญไม่แพ้กัน การเลือกรูปทรงของช่อดอกไม้ที่เหมาะสมกับตนเองจะช่วยให้ได้ช่อดอกไม้ที่สวยงาม และเข้ากันกับสไตล์ของงานแต่ง ทั้งยังแสดงถึงตัวตนของเจ้าสาว และถือได้สะดวกตลอดทั้งงาน รวมถึงง่ายต่อการโยนดอกไม้งานแต่งด้วย มาดูความแตกต่างของช่อดอกไม้แต่ละทรงกัน

ช่อดอกไม้งานแต่งทรงกลม

ทรงกลม

ช่อดอกไม้เจ้าสาวทรงกลมเป็นการจัดดอกไม้ในลักษณะทรงโดมกลม สามารถใช้ดอกไม้ชนิดเดียวกัน หรือหลายชนิดก็ได้ และยังเลือกสีสันที่หลากหลายได้อีกด้วย ถือเป็นตัวเลือกคลาสสิกที่เหมาะกับงานแต่งที่มีความเรียบหรู ทางการ ที่สำคัญช่อดอกไม้ทรงกลมนี้จะทำให้คุณถือสะดวกตลอดทั้งงาน

ช่อดอกไม้งานแต่งทรงก้านยาว

ทรงก้านยาว

หากเจ้าสาวคนไหนที่อยากได้ช่อดอกไม้ที่สื่อถึงความเป็นธรรมชาติ ความแปลกใหม่ ลองเลือกช่อดอกไม้ทรงก้านยาวก็เข้าท่าไม่น้อย เพราะทรงนี้ไม่ได้ตัดก้านดอกไม้ออก ทำให้ได้ลุกที่เป็นธรรมชาติมากกว่าทรงอื่นๆ ทรงก้านยาวเหมาะกับทุกรูปร่าง และเป็นที่นิยมในงานแต่งสไตล์โบฮีเมียน รวมถึงช่วยเสริมให้บรรยากาศดูชวนฝันเป็นพิเศษ ทั้งนี้ แม้ช่อดอกไม้ทรงนี้จะเสริมให้ภาพถ่ายสวยงาม แต่อาจไม่สะดวกนักเมื่อต้องถือในงานแต่งเป็นระยะเวลานานๆ

ช่อดอกไม้งานแต่งทรงน้ำตก

ทรงน้ำตก

ช่อดอกไม้ทรงน้ำตกมีลักษณะเป็นการนำดอกไม้มาเรียงซ้อนลดหลั่นกันเหมือนน้ำตก ให้ความรู้สึกเหมือนช่อเถาวัลย์ดอกไม้ของเจ้าหญิงในเทพนิยาย เหมาะสำหรับคู่ที่วางแผนจะจัดธีมงานแต่งในสวน หรือในโบสถ์คลาสสิก อย่างไรก็ตาม ช่อดอกไม้ทรงน้ำตกมีความตระการตามากเป็นพิเศษ ดังนั้น หากเลือกช่อดอกไม้ทรงนี้คุณควรเลือกชุดเจ้าสาวที่เรียบๆ มีรายละเอียดไม่เยอะมาก เพื่อให้เกิดความบาลานซ์ของช่อดอกไม้และชุดเจ้าสาวของคุณ

ช่อดอกไม้งานแต่งทรงโนสเกย์

ทรงโนสเกย์

ช่อดอกไม้ทรงโนสเกย์ จะมีลักษณะเล็ก กระทัดรัด และการออกแบบช่อดอกไม้ลักษณะนี้จะเน้นการตกแต่งด้วยใบไม้เป็นหลัก เหมาะสำหรับเจ้าสาวตัวเล็กที่อยากได้ช่อดอกไม้ที่มีสีเขียวสดชื่น ดูแล้วได้บรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ ดอกไม้ทรงนี้ยังสามารถแบ่งออกเป็นช่อเล็กๆ เพื่อให้คนที่คุณรักได้ เช่น คุณยาย คุณแม่ หรือเหล่าเพื่อนเจ้าสาวได้อีกด้วย 

ช่อดอกไม้งานแต่งทรงโพซี่

ทรงโพซี่

ช่อดอกไม้ทรงโพซี่เป็นการจัดดอกไม้ที่ชูความเด่นของดอกไม้ แต่จะมีการนำใบไม้เข้ามาเสริม เพื่อให้ช่อดอกไม้ดูมีลูกเล่นและความสวยงามมากยิ่งขึ้น และทรงโพซี่นี้ยังเหมาะกับการแบ่งดอกไม้เป็นช่อเล็กๆ เพื่อให้คุณยาย คุณแม่ หรือเหล่าเพื่อนเจ้าสาวเช่นเดียวกันกับทรงโนสเกย์ สำหรับชุดเจ้าสาวที่เหมาะกับดอกไม้ทรงนี้ควรจะเป็นชุดที่เรียบๆ หรือเป็นชุดลายลูกไม้สีขาว

ช่อดอกไม้งานแต่งทรงกำมือ

ทรงกำมือ

ทรงนี้เป็นการจัดดอกไม้ขนาดพอดีสำหรับกำไว้ในมือได้ แทรกด้วยใบไม้สีเขียว และผูกด้วยริบบิ้นหรือเชือกถัก จัดหลวมๆ เพื่อเพิ่มความรู้สึกสดใหม่ อิสระ และเป็นธรรมชาติให้กับช่อดอกไม้ เหมาะสำหรับงานแต่งที่จัดนอกสถานที่ เช่น ในสวน หรือในป่า นอกจากนั้น ยังเหมาะกับงานแต่งสไตล์โบฮีเมียนด้วยเช่นกัน

วิธีการโยนช่อดอกไม้ในงานแต่ง

โยนยังไงให้ปัง? วิธีการโยนช่อดอกไม้ในงานแต่ง ที่ไม่ได้มีแค่แบบเดียว

เป็นที่รู้กันดีว่าการรับช่อดอกไม้ต่อจากเจ้าสาวมักแปลว่าจะได้รับโชคด้านความรัก เหมือนกับเป็นคำทำนายว่าจะได้ใส่ชุดเจ้าสาวเป็นรายต่อไป และแม้ว่าการโยนดอกไม้งานแต่งจะเป็นธรรมเนียมที่มีมานาน แต่วิธีการโยนไม่จำเป็นต้องทำแบบเดิมๆ เราลองมาดูกันว่ามีวิธีการโยนดอกไม้แบบไหนบ้างที่น่าสนใจ

โยนดอกไม้แบบหันหลัง

การโยนช่อดอกไม้แบบหันหลังเป็นลักษณะการโยนช่อดอกไม้ในงานแต่งสุดคลาสสิก วิธีนี้ให้ความตื่นเต้นในแบบที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยเจ้าสาวจะทำการหันหลังให้กับเพื่อนเจ้าสาวหรือแขกที่ร่วมงานที่รอรับช่อดอกไม้จากคุณ จากนั้นก็ทำการโยนช่อดอกไม้ได้ ทั้งนี้ ยังมีข้อควรระวังคือ คุณต้องกะระยะหรือทิศทางในการโยนให้ดี เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้ดอกไม้ตกลงบนโต๊ะอาหาร หรือขึ้นไปติดกับโคมไฟแชนเดอเรียได้

โยนดอกไม้ด้วยริบบิ้น

เริ่มจากเตรียมริบบิ้นสีสวยงามที่เข้ากับช่อดอกไม้ เช่น หากคุณเลือกช่อดอกไม้เจ้าสาวสีชมพู ก็ควรเลือกริบบิ้นสีชมพู พร้อมทั้งตัดริบบิ้นไว้ตามจำนวนแขกที่จะร่วมกิจกรรม จากนั้นนำริบบิ้นมาผูกกับช่อดอกไม้ โดยมีเพียงเส้นเดียวเท่านั้นที่ผูกติดกับช่อดอกไม้โดยไม่หลุด ส่วนเส้นอื่นๆ สามารถดึงหลุดออกได้ง่ายๆ เมื่อถึงเวลาก็ให้แขกสุ่มจับปลายริบบิ้นและดึงเพื่อหาผู้โชคดีที่จะได้รับช่อดอกไม้นี้ ข้อดีคือได้ภาพสวยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะถ้าถ่ายจากมุมสูง ลดความวุ่นวาย และสร้างความแปลกใหม่ให้กับช่วงนี้ได้ดีอีกด้วย 

เล่นกิจกรรมเพื่อชิงช่อดอกไม้ 

ถ้าหากไม่อยากโยนช่อดอกไม้ ก็ยังสามารถหากิจกรรมอื่นๆ มาเล่นเพื่อหาผู้ชนะที่จะได้รับช่อดอกไม้ เช่น แข่งเต้นรำ ตอบคำถามชิงรางวัล จับฉลาก การจัดกิจกรรมให้หลายๆ คนได้ร่วมสนุกสามารถสร้างความเพลิดเพลินที่ไม่เหมือนใคร เป็นความทรงจำดีๆ ให้กับแขกที่มาร่วมงานอีกด้วย 

ให้ดอกไม้กับเจ้าสาวคนต่อไป

บางกรณีเจ้าสาวอาจจะได้รับการนัดแนะว่าภายในงานจะมีเจ้าสาวอีกคน หรือกำลังจะมีคนที่ถูกขอแต่งงาน ในสถานการณ์แบบนี้ เจ้าสาวสามารถเดินเข้าไปมอบช่อดอกไม้ให้เจ้าสาวคนถัดไปได้เลย เป็นการสร้างความเซอร์ไพรส์และได้รับบรรยากาศที่อิ่มเอม อบอุ่น โรแมนติก

แบ่งดอกไม้ออกเป็นช่อๆ แล้วให้คนที่คุณรัก

ตามธรรมเนียมแล้วเมื่อเจ้าสาวโยนช่อดอกไม้ในงานแต่ง ผู้ที่รับช่อดอกไม้จากเจ้าสาวจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะภายในงานยังมีแขกที่คุณรักและอยากให้ดอกไม้เช่นกัน ดังนั้น การแบ่งช่อดอกไม้ออกเป็นช่อเล็กๆ และนำไปมอบให้คนในครอบครัว พ่อแม่สามี หรือเพื่อนสนิท ก็ช่วยสร้างบรรยากาศที่น่าประทับใจได้ไม่น้อย

การโยนดอกไม้งานแต่งอาจเป็นสิ่งที่คนไทยคุ้นหูมานาน หลายคู่ที่กำลังจะแต่งงานก็ให้ความสำคัญกับกิจกรรมนี้ เพราะเป็นกิจกรรมที่สร้างสีสันในงานได้เป็นอย่างดี ทำให้แขกผู้ร่วมงานรู้สึกสนุก และเกิดความประทับใจ ทั้งนี้ การโยนช่อดอกไม้เป็นเพียงกิจกรรมเสริมเท่านั้น แท้จริงแล้วสิ่งที่ต้องเตรียมในงานแต่งยังมีมากมาย เช่น การหาสถานที่จัดงาน การเลือกชุด หรือจัดวางแผนต่างๆ ในภายในงานรายรื่นนั้นเอง