พาส่อง! 9 เมนูอาหารไทย ระดับท็อปโลก ทำง่าย คนไทยกินได้ ฝรั่งกินดี
ประเทศไทยนับได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีวัฒนธรรมการกินที่โดดเด่น มีรสชาติอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ที่เด่นชัด จนทำให้อาหารไทยโด่งดังมากๆ ในระดับโลก ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาไปดูกันว่ารายการอาหารไทยยอดนิยมมีอะไรบ้าง พร้อมมีสูตรการทำอย่างไรถึงจะได้รสชาติอร่อยแบบไทยแท้ๆ คนไทยกินแล้วถูกใจ ฝรั่งก็ชอบ
ทำไมเมนูอาหารไทยจึงได้รับความนิยมในระดับนานาชาติ
เมนูอาหารไทยหลายๆ เมนูนั้นได้รับความนิยม และเป็นที่ชื่นชอบของนักชิมมากมายในระดับนานาชาติ นั่นก็เป็นเพราะว่าอาหารไทยใช้เครื่องเทศ และวัตถุดิบที่มีความเฉพาะตัว ถูกนำมาทำเป็นเมนูที่หลากหลายน่ารับประทาน และมีรสชาติที่ถูกปาก โดยจะมีรสชาติเปรี้ยว หวาน เผ็ด ซึ่งเป็นรสชาติที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน
รวม 9 เมนูอาหารไทยที่ไม่ควรพลาด
รายการอาหารไทยนั้นมีอยู่อย่างหลากหลาย ซึ่งแต่ละรายการล้วนแล้วมีความน่ารับประทานไม่แพ้กันเลย แต่ในที่นี้เราจะพามาดูกันว่าเมนูอาหารไทยเมนูใดบ้างที่ได้รับความนิยม ซึ่งการันตีได้เลยว่าเป็นอาหารที่ถูกปากทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติอย่างแน่นอน
1. พะแนง – Phanaeng
แกงพะแนง เป็นแกงกะทิที่มีรสชาติเค็ม หวาน และมีความเผ็ดเล็กๆ โดยในแกงจะมีเนื้อสัตว์ เช่น หมู ไก่ หรือเนื้อวัว ที่ถูกเคี่ยวในน้ำกะทิผสมกับพริกแกง และปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊ป พร้อมเพิ่มกลิ่นหอมด้วยใบมะกรูด ซึ่งทาง TasteAtlas ได้จัดให้ “พะแนง” เป็นแกงที่อร่อยเป็นอันดับที่ 1 ของโลก ในปี 2023 จึงการันตีได้เลยว่าพะแนงนั้นเป็นหนึ่งในเมนูที่เหมาะกับนักชิมทั่วโลกเลยทีเดียว
วัตถุดิบ
- เนื้อไก่ 400 กรัม
- กะทิ 500 มิลลิลิตร
- พริกแกง 150 กรัม
- มะเขือพวง 100 กรัม
- ใบมะกรูดฉีก และใบมะกรูดซอย
- พริกชี้ฟ้า
- น้ำตาลปี๊ป 1.5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
- นำกะทิปริมาณ 200 มิลลิลิตรลงไปผัดจนกะทิแตกมัน จากนั้นให้ใส่พริกแกงแล้วผัดให้เข้ากัน
- จากนั้นนำเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ใส่ลงไปผัดให้สุก แล้วเติมกะทิส่วนที่เหลือลงไปเพื่อต้มให้แกงเดือด
- ใส่มะเขือพวง และใบมะกรูดฉีกลงไป เมื่อมะเขือสุกให้เริ่มปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊ปตามรสชาติที่ต้องการ
- จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน พร้อมตักเสิร์ฟ และตกแต่งด้วยใบมะกรูดซอย และพริกชี้ฟ้าซอย
2. มัสมั่น – Massaman Curry
เมนูอาหารไทยที่มีความโดดเด่นในด้านความหอมหวานมากที่สุดคือ “แกงมัสมั่น” เนื่องจากมีส่วนผสมของกะทิ เนื้อสัตว์ มันฝรั่ง และเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม จึงทำให้รสชาติของแกงออกมาอร่อยเข้มข้น พร้อมกับมีกลิ่นหอม โดยแกงมัสมั่นนิยมรับประทานคู่กับข้าวสวย และอาจาดเครื่องเคียงแตงกวาดอง เพื่อให้ได้รสชาติของความเป็นไทยแท้ นอกจากนี้ในปี 2021 แกงมัสมั่นยังถูกจัดให้เป็นแกงที่ดีที่สุดแห่งปีโดย CNN Travel อีกด้วย
วัตถุดิบ
- เนื้อสัตว์
- มันฝรั่ง 500 กรัม
- พริกแกงมัสมั่น 200 กรัม
- ลูกกระวานคั่ว 5 ลูก
- หอมใหญ่ 200 กรัม
- ถั่วลิสงคั่ว 100 กรัม
- หางกะทิ 500 มิลลิลิตร
- หัวกะทิ 250 มิลลิลิตร
- น้ำมะขามเปียก 100 กรัม
- น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น ½ ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
- นำเนื้อสัตว์ไปผัดกับกะทิ และเกลือป่น เพื่อเป็นการตุ๋นเนื้อให้ได้ความนุ่มที่ต้องการ
- ตั้งหม้อแล้วใส่หัวกะทิลงไปในหม้อ รอจนหัวกะทิเดือดจึงใส่พริกแกงลงไป เพื่อผัดพริกแกงให้เข้ากับกะทิ
- ใส่เนื้อสัตว์ที่ผ่านการผัดกับกะทิมาก่อนแล้วลงไปผัดกับพริกแกงให้ได้ที่
- ใส่มันเทศ หอมใหญ่ ถั่วลิสงคั่ว และลูกกระวานลงไปเพื่อผัดให้เข้ากับส่วนผสมอื่นๆ
- ใส่น้ำกะทิที่ใช้ตุ๋นเนื้อสัตว์ลงไป ตามด้วยหางกะทิ และต้มจนส่วนผสมทั้งหมดเดือด
- เริ่มปรุงด้วยน้ำตาลปี๊ป น้ำมะขามเปียก น้ำปลา และเกลือป่น
- คนให้ส่วนผสมเข้ากัน และตุ๋นแกงทิ้งไว้ประมาณ 30 – 40 นาที
- เมื่อรอตุ๋นจนครบเวลาแล้วให้ใส่หัวกะทิลงไป และรอแกงเดือดอีกรอบ จึงจะพร้อมเสิร์ฟ
3. แกงเขียวหวาน – Green Curry
“แกงเขียวหวาน” คืออีกหนึ่งในรายการอาหารไทยที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เป็นเมนูอาหารไทยที่ฝรั่งชอบ รวมไปถึงชาวเอเชียหลายๆ คนก็ชื่นชอบ เพราะมีรสชาติอร่อย มีความเผ็ด หวาน และเค็ม ซึ่งนับได้ว่าครบรสชาติเลยทีเดียว โดยแกงเขียวหวานมักนิยมทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะทานคู่กับขนมจีนก็ได้เช่นกัน
วัตถุดิบ
- พริกแกงเขียวหวาน
- หัวกะทิ 250 กรัม
- เนื้อไก่ 500 กรัม
- ใบมะกรูดฉีก
- หางกะทิ 500 กรัม
- น้ำตาลทรายแดง 10 กรัม
- น้ำปลา 25 กรัม
- มะเขือพวง 50 กรัม
- มะเขือเปราะ 200 กรัม
- ใบโหระพา 25 กรัม
- พริกชี้ฟ้าแดงหั่น 10 กรัม
วิธีการทำ
- ตั้งหม้อ หรือกระทะด้วยไฟแรงปานกลาง จากนั้นเคี่ยวหัวกะทิจนแตกมันแล้วจึงใส่พริกแกงตามลงไป
- เมื่อผัดพริกแกง และกะทิจนสุกเข้ากันแล้วจึงนำเนื้อไก่ และใบมะกรูดที่เตรียมไว้ใส่ลงไป
- เมื่อผัดเนื้อไก่ไปสักพักจึงเทหางกะทิลงไป
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายแดง น้ำปลา มะเขือพวง มะเขือเปราะ ใบโหระพา และพริกชี้ฟ้าลงไป
- เมื่อทุกอย่างสุกได้ที่แล้วจึงนำมาตักเสิร์ฟใส่ชามได้เลย
4. ข้าวซอย – Khao Soi
เมนูอาหารไทยอีกเมนูที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแกงที่ดีที่สุดในโลก นั่นก็คือ “ข้าวซอย” ซึ่งได้อันดับที่ 2 มา เนื่องจากข้าวซอยเป็นแกงที่มีส่วนผสมของกะทิ มีรสชาติเผ็ดนิดๆ อีกทั้งภายในซุปยังมีพร้อมทั้งโปรตีนจากเนื้อสัตว์ และคาร์โบไฮเดรตจากเส้นบะหมี่ไข่ นอกจากนี้ ข้าวซอยยังทานกับเครื่องเคียงอย่างผักกาดดอง มะนาวสด หอมแดง และพริกเพื่อเพิ่มความอร่อยได้อีกด้วย
วัตถุดิบ
- น่องไก่
- น้ำพริกข้าวซอย 100 กรัม
- กะทิ 500 กรัม
- เส้นข้าวซอย หรือเส้นหมี่ไข่อิสลาม 100 กรัม
- น้ำมันพืช 3 ถ้วยตวง
- เกลือ 2 ช้อนชา
- น้ำตาลมะพร้าว 1.5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- พริกผัด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำสะอาด 1.5 ลิตร
- หอมแขกซอย
- ผักกาดดอง
- ต้นหอม และผักชี
วิธีการทำ
- ใส่กะทิในกระทะหรือหม้อที่ตั้งไว้ แล้วตามด้วยเครื่องแกง จากนั้นผัดให้เข้ากันและเคี่ยวจนกะทิแตกมัน
- ใส่น่องไก่ที่เตรียมไว้ลงไป จากนั้นใส่กะทิที่เตรียมไว้ให้หมด แล้วเคี่ยวจนไก่เปื่อย เป็นเวลาประมาณ 30 – 40 นาที จากนั้นให้ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่เตรียมไว้
- นำเส้นข้าวซอยไปลวกจนได้ที่ แล้วตักใส่ชามที่เตรียมไว้
- เมื่อน้ำข้าวซอยเดือดจนได้ที่แล้วให้เทใส่เส้นที่เราลวกเอาไว้ และเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงที่เราเตรียมไว้ ได้แก่ ต้นหอม ผักชี หอมแดง ผักกาดดอง พริกผัด
5. แกงส้ม – Kaeng Som
“แกงส้ม” เป็นหนึ่งในเมนูที่มีความน่ารับประทานไม่แพ้กับเมนูอื่นๆ เลย โดยแกงส้มจะเน้นไปที่ผักเป็นวัตถุดิบหลัก มีรสชาติเปรี้ยว และตามด้วยรสชาติเผ็ด และเค็มเล็กน้อย บอกได้เลยว่าแกงส้มเป็นแกงที่ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ต่างชอบรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นแกงส้มกุ้ง หรือแกงส้มชะอมก็เป็นเมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน
วัตถุดิบ
- พริกแกงส้ม ½ ถ้วย
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ ⅓ ช้อนชา
- น้ำตาลมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ
- ตะไคร้ 2 ต้น
- ปลานิล 1 ตัว
- กุ้งสด 10 ตัว
- น้ำมะขามเปียก 1 ถ้วย
- น้ำซุป 1.5 ลิตร
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า
- กระดูกหมู 1 กิโลกรัม (สำหรับต้มน้ำซุป)
- ซุปก้อนรสหมู 1 ก้อน
- รากคื่นฉ่าย 2-3 ราก
วิธีการทำ
- ต้มน้ำให้เดือด ใส่เกลือ และตะไคร้ลงไป จากนั้นจึงนำปลาไปต้มเพื่อดับความคาว เมื่อปลาสุกก็นำเอามาแกะเลือกเอาเฉพาะเนื้อปลาออกมา
- นำเนื้อปลาลงไปตำในครกให้ขึ้นฟู แล้วจึงใส่พริกแกงส้มลงไปตำให้เข้ากับเนื้อปลา
- หากทำแกงส้มชะอมทอด ให้ทอดชะอมกับไข่ก่อนเริ่มต้มน้ำแกง หรือหากใส่เนื้อสัตว์อื่นๆ ให้เตรียมเนื้อสัตว์เอาไว้ เช่น กุ้ง หรืออาจใส่ผักเพิ่มได้ตามชอบ
- ต้มน้ำซุปให้เดือดแล้วนำพริกแกงที่ตำกับเนื้อปลาเอาไว้ลงไป ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่เตรียมเอาไว้ เมื่อเดือดแล้วจึงนำเนื้อสัตว์ หรือไข่ชะอมลงไป รอจนเนื้อสัตว์สุก ปิดไฟ และตักเสิร์ฟได้เลย
6. ไข่พะโล้ – Hard-Boiled Eggs in the Sweet Gravy
เมนูอาหารไทยอีกหนึ่งเมนูที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน คือ “ไข่พะโล้” เพราะเป็นเมนูที่มีรสชาติกลมกล่อมด้วยรสหวาน และเค็มเล็กน้อย เป็นเมนูที่ทานได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า กลางวัน หรือมื้อเย็น บอกเลยว่าเป็นเมนูที่ยอดนิยมคู่คนไทยจริงๆ
วัตถุดิบ
- ไข่ไก่
- ปีกกลางไก่ หรือน่องไก่
- ผงพะโล้
- อบเชย
- กระเทียม
- โป๊ยกั๊ก
- รากผักชี
- ซอสถั่วเหลือง
- น้ำตาลปี๊ก
- ผักชี
- น้ำมันพืช
- พริกไทย
- น้ำมันหอย
- ซีอิ๊วดำ
วิธีการทำ
- นำไข่ไก่ไปต้มให้สุก แล้วน้ำมาปอกเปลือกเตรียมเอาไว้
- โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเข้าด้วยกัน แล้วนำไปผัดในน้ำมัน โดยใช้น้ำมันในการผัดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อผัดจนหอมให้ใส่ผงพะโล้ อบเชย และโป๊ยกั๊กลงไป
- หลังจากนั้นจึงใส่ซีอิ๊วดำ และเติมน้ำเปล่าเล็กน้อย จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊ป รอจนน้ำตาลปี๊ปละลายจึงใส่ซอสถั่วเหลือง และน้ำมันหอยตามไป
- นำปีกไก่ หรือน่องไก่ที่เตรียมไว้มาใส่ และเติมน้ำเปล่าลงไปให้พอท่วมเนื้อไก่ จากนั้นใส่ไข่ไก่ลงไป
- ต้มจนไก่สุก และรอให้น้ำเดือด โดยแนะนำว่าไข่พะโล้ควรต้มทิ้งไว้นานๆ เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้น และสีสันที่น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น และเมื่อตักเสิร์ฟให้โรยด้วยผักชีเพื่อเพิ่มสีสันให้อาหาร
7. ผัดไทยกุ้งสด – Pad Thai with Prawns
“ผัดไทยกุ้งสด” เรียกได้ว่าเป็นเมนูอาหารไทยที่ฝรั่งชอบเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ผู้คนจากทั่วโลกล้วนรู้จักผัดไทยว่าเป็นอีกหนึ่งอาหารขึ้นชื่อของประเทศไทยอีกด้วย เนื่องจากมีรสชาติหวาน และเค็ม รับประทานได้ง่าย อีกทั้งยังนิยมใส่กุ้ง ห่อไข่ หรือมีผักเคียง จึงทำให้เป็นเมนูอาหารไทยที่มีสารอาหารครบ และรสชาติอร่อย ถูกใจทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง การทานผัดไทยนั้นสามารถทานพร้อมผักเครื่องเคียงอย่างใบกุยช่าย หัวปลี ถั่วงอก มะนาวฝาน พร้อมเครื่องปรุง เช่น พริกป่น น้ำตาลทราย น้ำปลา มะนาวซีก และถั่วลิสงคั่วบด ก็จะยิ่งเพิ่มความอร่อยให้ลงตัวไปอีก
วัตถุดิบ
วัตถุดิบสำหรับการทำซอสผัดไทย
- หอมแดงซอย 100 กรัม
- น้ำมันพืช 1 ถ้วยตวง
- พริกชี้ฟ้าแห้ง พร้อมแกะเมล็ดออก
- น้ำเปล่า 240 กรัม
- น้ำตาลมะพร้าว 450 กรัม
- น้ำมะขามเปียก 240 กรัม
- น้ำปลา 80 กรัม
วัตถุดิบสำหรับทำผัดไทย
- น้ำซอสผัดไทย
- น้ำมันหอมเจียว 3 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กุ้งสด
- ไชโป๊วหวานสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- เต้าหู้เหลืองหั่นเต๋า 50 กรัม
- กุ้งแห้งฝอย
- เส้นจันท์แห้ง
- น้ำเปล่า ¾ ถ้วยตวง
- ใบกุยช่ายหั่นท่อน
วิธีการทำ
วิธีการทำซอสผัดไทย
- คั้นน้ำมะขามเปียก
- นำพริกชี้ฟ้าที่แกะเมล็ดออกแล้วมาแช่น้ำจนนิ่ม
- ตั้งไฟที่กระทะพร้อมใส่น้ำมันเพื่อเจียวหอมแดงให้เหลืองกรอบ และพักทิ้งไว้
- เมื่อพริกชี้ฟ้านิ่มแล้วจึงนำมาปั่น และเทพริกที่ปั่นพร้อมน้ำลงไปในกระทะ ใช้ไฟกลางค่อนอ่อน เพื่อเคี่ยวให้เดือด
- หลังจากนั้นจึงปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำมะขามเปียก และน้ำปลา คนให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วเคี่ยวประมาณ 20 นาทีด้วยไฟอ่อน ให้น้ำซอสมีความข้นเล็กน้อย จากนั้นจึงใส่หอมแดงเจียวลงไปเคี่ยวต่ออีกประมาณ 5 นาที
วิธีการทำผัดไทย
- แช่เส้นจันท์ประมาณ 10 นาที
- ตั้งกระทะ แล้วจากนั้นจึงใส่น้ำมันจากหอมเจียว ตามด้วยกุ้งลงไปผัดให้สุก และนำกุ้งไปพัก
- ต่อมาให้ใส่หัวไชโป๊ว เต้าหู้เหลือง ผัดให้สุกแล้วจึงใส่กุ้งฝอยตามลงไปผัดด้วยกัน
- นำเส้นจันท์ที่แช่น้ำแล้วลงไปผัด ปรุงรสด้วยน้ำปลาเล็กน้อย จากนั้นผัดให้เกือบแห้งแล้วจึงใส่น้ำซอสตามลงไป
- นำไข่ไก่มายีให้แตก จากนั้นจึงนำมาผัดคลุกกับเส้น แล้วตามด้วยใส่ผักที่เตรียมไว้ หรืออาจปรุงเล็กน้อยด้วยพริกป่น
8. ต้มยำกุ้ง – Tom Yum Goong
รายการอาหารไทยที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอีกหนึ่งเมนูคือ “ต้มยำกุ้ง” เมนูนี้เป็นเมนูที่ทำให้ชาวต่างชาติหลายๆ คนนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ ในเมนูที่น่าลองทาน เพราะเป็นเมนูที่โด่งดัง และเป็นภาพจำของอาหารไทยเลย อีกทั้งยังเป็นเมนูอาหารไทยที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของไทยอย่างเด่นชัด ด้วยรสชาติที่เผ็ด เปรี้ยว เค็ม และมีความกลมกล่อมของน้ำซุป อีกทั้งยังเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของสมุนไพรไทยอีกด้วย
วัตถุดิบ
- เนื้อสัตว์ตามชอบ เช่น กุ้ง หมึก ปลา หรือเนื้อไก่ เป็นต้น
- เห็ดฟาง 400 กรัม
- ข่า 40 กรัม
- ตะไคร้ 40 กรัม
- หอมแดง 40 กรัม
- ใบมะกรูด 5 กรัม
- รากผักชี
- ผักชีไทย
- ผักชีฝรั่ง 10 กรัม
- พริกจินดา และพริกขี้หนูสวนโขลกละเอียด 30 กรัม
- น้ำ 1 ลิตร
- หัวกะทิ 200 มิลลิลิตร
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกเผา 2.5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพริกเผา 1.5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 6 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
- นำผัก และสมุนไพรที่เตรียมไว้มาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นจึงหั่นออกเป็นขนาดที่พอดี
- ตั้งน้ำในหม้อให้เดือด จากนั้นใส่เนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ลงไป ตักออกให้เหลือแต่น้ำ แล้วจึงใส่เครื่องต้มยำลงไป รอให้น้ำเดือดจัดๆ เมื่อน้ำเดือดแล้วจึงใส่เห็ดตามลงไปอีกที และรอให้เห็ดสุก
- ปรุงรสชาติด้วยเกลือ น้ำปลา น้ำพริกเผา น้ำมันพริกเผา และคนให้ส่วนผสมเข้ากัน
- จากนั้นจึงนำเนื้อสัตว์มาใส่โดยไม่ต้องคน เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นคาว
- เมื่อน้ำเดือดจัดอีกครั้งให้ใส่หัวกะทิลงไป คนให้เข้ากันเล็กน้อย
- จากนั้นจึงใส่พริกที่โขลกเอาไว้ลงไป และใส่ผักชีไทย ผักชีฝรั่งตาม จากนั้นจึงปิดไฟ แล้วใส่น้ำมะนาว พร้อมเสิร์ฟได้
9. ปูผัดผงกะหรี่ – Fried Crab in Yellow Curry
“ปูผัดผงกะหรี่” เป็นเมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในหมู่ชาวต่างชาติ เนื่องด้วยมีรสชาติที่ออกหวานๆ เค็มๆ ด้วยส่วนผสมของไข่ไก่ และนมข้นจืด จึงทำให้มีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ยิ่งเมื่อได้ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ยิ่งทำให้เพิ่มความอร่อยได้เป็นอย่างดี
วัตถุดิบ
- ปูม้า 800 – 1,000 กรัม
- กระเทียม
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- หอมหัวใหญ่ 1 หัว
- คื่นฉ่าย 1 ต้น
- พริกชี้ฟ้าแดง
- ต้นหอม
- ผงกะหรี่ 3 ช้อนโต๊ะ
- นมข้นจืด 150 มิลลิลิตร
- น้ำเปล่า
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพริกเผา
- ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น
วิธีการทำ
- เตรียมชามผสมสำหรับทำน้ำซอสผงกะหรี่ โดยเริ่มจากตอกไข่ลงไปแล้วตีให้แตก เติมน้ำพริกเผา และเครื่องปรุง ได้แก่ ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย น้ำมันหอย น้ำปลา จากนั้นใส่นมข้นจืดตามลงไป แล้วตีผสมให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะโดยใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปแล้วตามด้วยกระเทียมลงไปผัดให้มีกลิ่นหอม จากนั้นจึงใส่ผงกะหรี่ตามลงไปผัด และใส่พริกไทยพร้อมผัดให้เข้ากัน
- ใส่น้ำซอสที่เตรียมไว้ลงไปแล้ว ตามด้วยปูม้า หอมใหญ่ พริกแดงซอย แล้วปิดผาโดยที่ไม่ต้องคน เมื่อเดือดแล้วจึงใส่ไข่ไก่ลงไปแล้วจึงค่อยๆ คน
- เริ่มผัดจนปูเปลี่ยนเป็นสีส้ม จากนั้นจึงค่อยๆ ปรุงรสเพิ่มได้ตามใจชอบก่อนจะปิดไฟ
- เมื่อปิดไฟแล้วให้ใส่หอมซอย และคื่นฉ่ายลงไปผัดให้โดนความร้อนเล็กน้อย จากนั้นจึงตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
สรุป
เมนูอาหารไทยเป็นที่นิยม ถูกใจทั้งชาวไทย และชาวต่างชาตินั้นมีหลากหลายเมนูเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากแต่ละเมนูนั้นมีความโดดเด่นในการนำวัตถุดิบมาปรุงให้มีรสชาติ และหน้าตาที่น่ารับประทาน อีกทั้งยังสามารถดึงความเป็นอัตลักษณ์ของอาหารไทยออกมาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้สมุนไพร เครื่องเทศ หรือเนื้อสัตว์ ที่สามารถนำมาผสมปรุงเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว จึงทำให้อาหารไทยเป็นอาหารที่คนไทยทานเองก็อร่อย คนต่างชาติทานแล้วก็ติดใจ
หากในวันพักผ่อนที่ดีสักวันหนึ่งคุณต้องการที่จะพักในที่พักที่มีบรรยากาศดีๆ พร้อมด้วยการรับประทานอาหารที่อร่อย Rancho Charnvee Resort & Country Club มีบริการทั้งที่พักที่สวยงาม พร้อมกับรายการอาหารไทยที่หลากหลายพร้อมให้บริการ ซึ่งรับรองได้เลยว่าจะเป็นการพักผ่อนที่ทำให้คุณได้ผ่อนคลายควบคู่ไปกับการเติมพลังด้วยอาหารอร่อยๆ ได้อย่างแน่นอน