fbpx

8 ประโยชน์ของการท่องเที่ยว ที่การันตีโดยงานวิจัย

การเดินทางท่องเที่ยว หากได้ไปในที่ที่เราไม่คุ้นเคย หรือได้ไปสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ก็เหมือนกับการอ่านหนังสือ ที่จะทำให้คุณได้พบเจอบรรยากาศแห่งความสนุก ตื่นเต้น เป็นการสร้างความทรงจำที่ดี ทั้งนี้ การท่องเที่ยวมีด้วยกันหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวชมธรรมชาติ เที่ยวแบบผจญภัย เที่ยงเชิงนิเวศ เที่ยวชมวิถีชีวิตวัฒนธรรม ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวแบบไหน ล้วนแต่ได้รับประโยชน์ของการท่องเที่ยวไม่ทางตรงก็ทางอ้อมอย่างแน่นอน โดยผลการศึกษาวิจัยทางวิชาการ จากหลายๆ สถาบันได้ชี้ชัดออกมาว่า การท่องเที่ยวนั้นให้อะไรกับเราได้มากกว่าที่คิด วันนี้เราจะมาเอาใจคนรักการเดินทางโดยเฉพาะ มาดูกันเลยว่า 8 ประโยชน์ของการท่องเที่ยว ที่การันตีโดยงานวิจัย มีอะไรบ้าง

1. ท่องเที่ยวนั้นดีต่อจิต

1. ท่องเที่ยวนั้นดีต่อจิต

ในโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องวุ่นวายต่างๆ เช่น ไวรัสระบาด ฝุ่นละออง หรือแม้แต่ความเครียดจากการทำงาน ล้วนแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราโดยไม่รู้ตัว จนบางครั้งหลายคนกลายเป็นคนอารมณ์ร้อน หงุดหงิดง่าย หนักๆ เข้าก็จะเป็นโรคเครียดสะสม ซึ่งเป็นผลเสียต่อสุขภาพจิตทั้งสิ้น แต่หากได้เดินทางท่องเที่ยวก็จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ลงไปได้ มีรายงานผลวิจัยจากGlobal Wellness Institute ชี้ชัดว่าประโยชน์ของการท่องเที่ยวช่วยสร้างศักยภาพให้กับระบบความคิด และยังช่วยสร้างทัศนคติที่ดี ในการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ หลายๆ ประเทศทั่วโลก จึงหันมาให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกันมากขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่มีอัตราการเติบโตสูงกว่าการท่องเที่ยวปกติถึง 53%

2. ท่องเที่ยวนั้นดีต่อใจ

2. ท่องเที่ยวนั้นดีต่อใจ

ประโยชน์ของการท่องเที่ยวที่เห็นได้ชัดคือ เราได้พบเจอกับสถานที่แปลกใหม่ บรรยากาศวิวทิวทัศน์แปลกตา รวมไปถึงได้รู้จักมิตรภาพของผู้คน และวัฒนธรรมอีกมากมาย สิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วนั้น เป็นเหมือนยาที่ช่วยกระตุ้นหัวใจให้กระปรี้กระเปร่ามากขึ้น แต่ไม่เพียงเท่านั้น ผลการศึกษาวิจัยผู้หญิงอายุ 45-64 ปี ของโครงการ Framingham Heart Study ยังระบุด้วยว่า ผู้ที่เดินทางเที่ยวทุกๆ 2 ปี มีโอกาสเกิดหัวใจวายหรือเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจน้อยกว่าผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวทุกๆ 6 ปี ถึง 50% เลยทีเดียว ส่วนผู้ชายที่ชอบท่องเที่ยวในวันหยุด จะมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจหลอดเลือดน้อยกว่าผู้ที่ไม่เคยท่องเที่ยว หรือท่องเที่ยวน้อยมากๆ ถึง 32% ขณะที่ผลการวิจัยจาก State University of New York (SUNY) ก็ระบุเช่นกันว่า คนทำงานที่ไม่ได้ลาพักร้อนประจำปี มีความเสี่ยงจะเสียชีวิตจากภาวะหัวใจวายเพิ่มขึ้นถึง 32%

3. ท่องเที่ยวดีต่อสมอง

3. ท่องเที่ยวดีต่อสมอง

หากเป็นคนวัยทำงาน ทำธุรกิจต่างๆ คงเข้าใจได้ดีว่า ในชีวิตประจำวันนั้นต้องใช้ความคิด ต้องใช้ทักษะในการวางแผนงานต่างมากมาย บางครั้งการคิดอะไรซ้ำๆ อยู่กับสถานที่จำเจ สมองก็พาลจะตันเอาซะดื้อๆ ดั้งนั้น ประโยชน์ของการท่องเที่ยวที่ได้ออกไปพบเจอกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ไม่เพียงช่วยให้เราได้เปิดหูเปิดตา แต่ยังช่วยเปิดสมองของเราได้อีกด้วย

มีผลงานวิจัยจากสถาบัน Global Coalition on Aging (GCOA) ระบุออกมาว่า คนที่ได้เดินทางไปสัมผัสกับวัฒนธรรมใหม่ๆ ได้ไปพบไปเห็นสถานที่แปลกตา จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางสมองได้ เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคสมองเสื่อม เพราะการได้เปิดประสบการณ์ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง ความคิดและสติปัญญาก็จะเฉียบคมอยู่เสมอ ขณะที่ David Strayer อาจารย์ด้านจิตวิทยาจาก University of Utah บอกว่า การท่องเที่ยวดื่มด่ำกับธรรมชาติ จะทำให้เราอยู่ห่างจากเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งมีผลให้สมองได้ผ่อนคลาย ทำให้ระบบความจำดีขึ้น

4. ท่องเที่ยวทำให้ดูอ่อนวัย

การอยู่กับความรู้สึกเดิมๆ ทำงานสถานที่ซ้ำซากจำเจตลอดทั้งเดือนทั้งปี เกิดผลเสียโดยที่เราไม่รู้ตัว บางคนอาจจะวิตกกังวล จนใบหน้าห่อเหี่ยวเป็นริ้วรอย เครียดจนกลายเป็นโรคซึมเศร้าไปเลยก็มี การปลดปล่อยความเศร้าด้วยการเดินทางท่องเที่ยว ไปค้นหาเรื่องราวใหม่ๆ ให้กับชีวิต ถือว่าตอบโจทย์ความสุขได้ตรงประเด็นมากที่สุด และแน่นอนว่าเมื่อได้ทำในสิ่งที่ตื่นเต้นหรือสนใจ ร่างกายก็จะหลั่งสารเอ็นโดรฟิน (Endorphin) หรือสารความสุขที่ช่วยสร้างความสดชื่นออกมา

ผลวิจัยจาก Global Coalition on Aging ชี้ชัดออกมาว่า เมื่อคนเราเครียดสะสม สุขภาพร่างกายก็จะแก่ก่อนวัยอันควร ภูมิคุ้มกันก็จะบกพร่อง เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ง่าย เช่น ปวดหัว ไมเกรน โรคลำไส้ โรคกระเพาะอาหาร ฯลฯ เรียกว่าไม่ต่างจากการฉีด Cortisol หรือฮอร์โมนแห่งความเครียด เข้าสู่ร่างกายเลยทีเดียว นอกจากนั้น ยังมีผลสำรวจประโยชน์ของการท่องเที่ยวจาก Expedia บริษัทท่องเที่ยวชั้นนำได้ระบุออกมาว่า จากการสำรวจความเห็นของคน จำนวน 500 คน พวกเขาจะรู้สึกผ่อนคลาย สมองปลอดโปร่งมากขึ้น หลังจากออกท่องเที่ยวได้เพียง 1 วัน หรือ 2 วัน

5. ท่องเที่ยวดีต่อความสัมพันธ์

5. ท่องเที่ยวดีต่อความสัมพันธ์

ในทุกวันไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เรียนหนังสือ หรือการใช้ชีวิต เราจะสังเกตเห็นได้ว่า ต่างคนต่างมีโลกส่วนตัวกันมากขึ้น บางครั้งอยู่บ้านเดียวกันแทบจะไม่ได้คุย หรือทำอะไรร่วมกันเลยก็มี แต่หากได้ไปท่องเที่ยวกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา ทำกิจกรรมกันทั้งครอบครัว ใช้ชีวิตที่แตกต่างจากเดิม ก็จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นได้ การได้เดินทางร่วมกัน กินอาหารอร่อยๆ ด้วยกัน ถ่ายรูปสถานที่สวยๆ ช่วยสร้างมิตรภาพให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดี

ผลวิจัยจาก University of Surrey ประเทศอังกฤษ ยังระบุออกมาด้วยว่า เพียงแค่การได้วางแพลนท่องเที่ยวร่วมกัน ก็ช่วยสร้างความรู้สึกเชิงบวกให้กับทุกคนได้มากขึ้นแล้ว ยิ่งไปเที่ยวร่วมกันก็ยิ่งเป็นผลดีมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะประโยชน์ของการท่องเที่ยวกับครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ทำให้มีเวลาได้พูดคุยกันมากขึ้น เข้าใจความรู้สึกของกันและกันมากขึ้น อาจจะไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล เช่น พาลูกไปเที่ยวเขาใหญ่ ที่เที่ยวยอดฮิตใกล้กรุงเทพ ขับรถเพลินๆ แค่ 2 ชั่วโมง หรือหากเป็นคนทำงาน ไปเที่ยวแบบคู่รักพาแฟนไปสวีทก็มีที่เที่ยวต่างจังหวัดสวยๆ ให้เลือกอีกมากมาย

6. ท่องเที่ยวทำให้มีความสุขเพิ่มขึ้น

มีคำพูดที่ว่า หากเราค้นหาตัวเองเจอเร็วเท่าไหร่ เราก็จะมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น แต่เราอาจจะไม่มีทางค้นหาตัวเองเจอ หากยังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จำเจ หรือทำอะไรเดิมๆ เหมือนที่ Dr.Thomas Gilovich ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาจาก Cornell University ประเทศอังกฤษ ได้สรุปผลการศึกษาว่าศัตรูของความสุขคือความเคยชิน แน่นอนว่าประโยชน์ของการท่องเที่ยว ที่เห็นได้ชัดเจนอีกข้อหนึ่งก็คือ การท่องเที่ยวเป็นเหมือนเครื่องมือที่ช่วยให้ค้นหาตัวเองได้เร็วขึ้น เห็นตัวเองชัดเจนขึ้น

เมื่อรู้จักตัวเองดีขึ้นความสุขก็จะตามมา ผลสำรวจจากเว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดัง Booking.com ระบุว่าการได้ออกเดินทาง สามารถสร้างความสุขได้มากกว่า การใช้ชีวิตปกติถึง 77% และจากการสำรวจยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า การเดินทางท่องเที่ยว พักผ่อน พักร้อน ทำกิจกรรมนอกสถานที่ ฯลฯ สร้างความสุขให้กับชีวิตมากกว่าทำกิจกรรมประเภทอื่นๆ ถึง 49%

7. ท่องเที่ยวช่วยพัฒนาทัศนวิสัยและบุคลิกภาพ

ทุกการเดินทางท่องเที่ยว นอกจากต้องมีการวางแผนแล้ว ระหว่างเส้นทางเราได้พบเจอมิตรภาพใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย สอบถามเส้นทาง ขอความช่วยเหลือ สิ่งเหล่านี้เป็นประสบการณ์เสมือนบทเรียนชีวิต ให้เราได้เรียนรู้ถึงท่าทีปฏิสัมพันธ์ของตัวเราต่อคนรอบข้าง ซึ่งก็เหมือนเป็นการฝึกฝน พัฒนาทักษะการสื่อสาร วิสัยทัศน์ รวมถึงบุคลิกภาพด้วยนั่นเอง เพราะบางครั้งเมื่อเราอยู่ที่ทำงาน อาจเป็นคนที่ค่อนข้างประหม่าเวลาต้องแสดงออกต่อหน้าคนจำนวนมาก หรือหากต้องนำเสนองานอาจจะไม่มีความมั่นใจ

มีผลวิจัยที่รายงานว่า ประโยชน์ของการท่องเที่ยวสำหรับมนุษย์เงินเดือนหรือคนทำงานออฟฟิศ เมื่อกลับมาจากเดินทางท่องเที่ยว จะมีสมาธิกับการทำงาน และสามารถรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย ดร.จูเลียซิมเมอร์มานน์ และ ดร.ฟรานซ์เนเยอร์ จาก Friedrich-Schiller University แห่งเยนา ประเทศเยอรมนี ได้ศึกษาพบว่านักศึกษาที่เดินทางไปศึกษาต่างประเทศ ไปสัมผัสกับชีวิตที่แปลกใหม่ เมื่อกลับมาจะมีความสนใจในสิ่งต่างๆ รอบตัว มีความมั่นคงทางอารมณ์ มีบุคลิกภาพ ทัศนคติมุมมองเปิดกว้าง และเปิดใจพร้อมรับฟังปัญหา ได้ดีกว่านักศึกษาที่ไม่ได้เดินทางไปที่อื่นเลย

8. ท่องเที่ยวช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์

8. ท่องเที่ยวช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์

หากต้องทำงานซ้ำซากจำเจ ทำอะไรวนลูป หรือทนอยู่ในที่เดิมนานๆ จะเป็นตัวลดทอนจินตนาการ ไอเดียความคิดสร้างสรรค์ลง ประโยชน์ของการท่องเที่ยวที่นอกจากพาตัวเองออกจาก Comfort Zone แล้ว ยังเป็นการได้ออกไปมองโลกในมุมมองใหม่ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต และการทำงานให้กับตัวเอง เหมือนคำพูดของ Marcel Proust เป็นนักเขียนนักวิพากษ์วรรณกรรมชื่อดังชาวฝรั่งเศส ที่กล่าวไว้ว่า “การเดินทางเพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่แท้จริงไม่ใช่แค่การค้นหาสถานที่ใหม่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการมองสิ่งเหล่านั้นในมุมมองที่สร้างสรรค์ใหม่ๆ ด้วย”

จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Personality and Social Psychology วารสารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในด้านจิตวิทยาสังคมและบุคลิกภาพ ได้ระบุว่าคนที่ได้เดินทางท่องเที่ยว หรือไปเรียนต่อในที่อื่นๆ มีแนวโน้มในการพัฒนาทักษะการแสดงออก รวมทั้งมีความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) โดยเฉลี่ยสูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องปรับตัวกับสถานการณ์การทำงาน ที่ต้องใช้ความคิดวางแผนใช้ทักษะต่างๆ ได้มากกว่าคนที่อยู่กับสภาพแวดล้อมเดิมๆ

เรื่องเพิ่มเติมที่ควรรู้! เพื่อไม่ให้เซ็งเวลาไปเที่ยว

หลังจากรู้ว่าประโยชน์ของการท่องเที่ยวมีอยู่หลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้มีความสุข ส่งผลดีต่อสุขภาพ คราวนี้ก็ได้เวลาวางแผนออกเดินทางไปท่องเที่ยวกันแล้ว โดยสามารถทำตามแผนนี้ได้เลย เพื่อให้การทริปนี้สนุก ประทับใจ และไม่ผิดแผน

●       เลือกที่เที่ยวในแบบที่ใช่

อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่า การท่องเที่ยวมีด้วยกันหลายรูปแบบ ทั้งการเที่ยวธรรมชาติ เที่ยวผจญภัย เที่ยวเชิงนิเวศ เที่ยวแนวเรียนรู้วิถีชีวิต ฯลฯ เราต้องเลือกก่อนว่า การเที่ยวแบบไหนเราจะมีความสุขมากกว่า ซึ่งการเลือกเที่ยวในแบบที่ใช่ อาจจะมีปัจจัยอื่นมาเป็นตัวตัดสินด้วย เช่น ไปคนเดียว ไปกับคนรัก หรือไปกับครอบครัว เพราะบางคนอาจจะชอบเที่ยวแบบชิลๆ บางคนชอบทำกิจกรรมสนุกๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวแบบไหนก็ล้วนแต่ให้ประโยชน์ทั้งสิ้น

●      ศึกษาข้อมูล วางแผนให้ชัดเจน

ปัจจุบันในยุค Internet of things การหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว การจองที่พัก จองตั๋วเดินทาง ทำได้ไม่ยาก การศึกษาข้อมูล ไม่ได้หมายความว่า เราจะเคร่งเครียดไม่ผ่อนคลาย แต่เป็นการเตรียมตัวล่วงหน้าทำให้อะไรง่ายขึ้น เพื่อที่จะช่วยให้ทริปนั้น สนุกและสมบูรณ์แบบ เช่น อ่านจากรีวิวในโซเชียลมีเดีย อ่านหนังสือ หรือขอคำแนะนำจากเพื่อนที่เคยไปมาแล้ว อาจจะไม่ต้องถึงขนาดต้องพร้อม 100% แต่อย่างน้อยควรมีความพร้อมเรื่องข้อมูลสัก 70% ซึ่งก็สามารถช่วยให้วางแผนงบประมาณได้ง่ายขึ้นด้วย

●      เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทาง

เมื่อรู้จุดหมายปลายทางที่แน่นอนแล้วว่าไปเที่ยวแบบไหน ไปเที่ยวป่า เที่ยวภูเขา เที่ยวทะเล ฯลฯ ไปฤดูไหน ภูมิอากาศสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร เดินทางด้วยวิธีไหน เรื่องสำคัญต่อมาที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ การเตรียมตัวจัดกระเป๋าให้พร้อมสำหรับการเดินทาง การจัดของใช้ส่วนตัว ของใช้จำเป็น หมวก เสื้อผ้า ยารักษาโรค อุปกรณ์ Gadget ต่าง ๆ เช่น กล้องถ่ายรูป สายชาร์ตโทรศัพท์มือถือ

เป็นที่ทราบกันว่าประโยชน์ของการท่องเที่ยว สามารถช่วยสร้างความสุข ความสนุก ช่วยให้ผ่อนคลายได้ ดังนั้น ใครที่กำลังหมดไฟในการทำงาน หรือมีความเครียดสะสม ต้องลองออกมาเที่ยว หาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกมีความสุขและมีไฟอีกครั้ง ทั้งนี้ หากคุณกำลังมองหาที่พักบรรยากาศดีๆ มีกิจกรรมมากมายเหมาะกับคู่รัก ครอบครัว และกลุ่มเพื่อน Rancho Charnvee รีสอร์ทที่จะทำให้คุณเคลิบเคลิ้มไปกับบรรยากาศสไตล์ European มาพร้อมกับห้องพักหลายรูปแบบเพื่อรองรับการพักผ่อนของคุณ