วิธีขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นลงเขา ให้ปลอดภัย สบายใจตลอดทริป

วันหยุดพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ หลายคนมักนิยมวางแผนที่จะขับรถเดินทางไปท่องเที่ยวขึ้นเขาในต่างจังหวัด เพราะบรรยากาศสวยๆ ต้นไม้เขียวขจี ภูเขาล้อมรอบ มีความร่นรื่น เป็นการชาร์จพลังที่ดีในวันหยุด แต่ถึงอย่างไรก็ตามการขับรถขึ้นเขาสำหรับมือใหม่ที่ใช้เกียร์ระบบออโต้อาจจะเป็นเรื่องที่น่ากังวัลไม่น้อย เพราะยังไม่มีความชำนาญในการขับขี่หรือไม่รู้วิธีในการขับรถขึ้นเขานั้นเอง

ฉะนั้น บทความนี้ขอพามือใหม่ที่กำลังวางแผนจะขับรถไปเที่ยวบนเขา มาดูวิธีขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขาและวิธีขับรถลงเขาด้วยเกียร์ออโต้อย่างไรให้ปลอดภัยต่อตัวเองและเพื่อนร่วมทาง รวมทั้งยังมีข้อควรรู้อื่นๆ ที่จำเป็นต่อการเดินทางไกลอีกด้วย

ขับรถขึ้นลงเขาระหว่างเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดาต่างกันอย่างไร

ระหว่างเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดาจะแตกต่างกันในเรื่องของวิธีขับขี่ แต่ระบบการทำงานของเครื่องยนต์นั้นจะคล้ายคลึงกัน เช่น หากคุณขับรถเกียร์กระปุกขึ้นเขาและลงเขา จำเป็นต้องใช้เกียร์ต่ำ 1,2,3 พร้อมกับการเหยียบคันเร่งและครัตช์เพื่อให้รถเคลื่อนตัวได้ ในกรณีที่ลงเขาจะต้องมีการเหยียบเบรกเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

แต่สำหรับวิธีขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขา คุณจำเป็นต้องใช้เกียร์ D1-D2 เพื่อให้รถเคลื่อนที่และถ้าเจอทางราบก็สามารถเปลี่ยนมาใช้เกียร์ D ได้ แต่ไม่ควรใช้เกียร์นี้ตลอดเส้นทางในขณะขึ้นเขา เพราะจะส่งผลให้การทำงานของเกียร์นั้นร้อนได้  วิธีขับรถลงเขาด้วยเกียร์ออโต้ก็ยังสามารถใช้เกียร์ D ได้เช่นกัน แต่จะต้องทำการเหยียบเบรกเป็นระยะเรื่อยๆ ตลอดเส้นทาง

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนการเดินทาง

นอกจากวิธีขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขาและวิธีขับรถลงเขาด้วยเกียร์ออโต้สำหรับมือใหม่ที่ควรรู้แล้ว เมื่อต้องขับรถเดินทางไปเที่ยว การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการเดินทางก็สามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับคุณและคนในครอบครัวได้ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้สามารถใช้ได้กับการขับรถออกเดินทางทุกๆ ครั้ง โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นการขึ้นเขาเท่านั้น 

· ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง

ตรวจเช็กสักหน่อยก่อนการเดินทางว่าอากาศในช่วงวันเวลานั้นเป็นอย่างไร เพื่อให้คุณได้เตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่จะเกิดขึ้น ถ้ามือใหม่ที่เพิ่งขับรถมาได้ไม่นานการขับรถขึ้นเขาในหน้าฝนดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ท้าทายพอสมควร เพราะด้วยเส้นทางที่ลาดชันและสภาพอากาศฝนตกอาจจะทำให้วิสัยทัศน์ไม่เอื้ออำนวยต่อการมองเห็น จะดีกว่าไหมหากวันนั้นเป็นวันที่มีแสงแดด อากาศดี จะทำให้คุณมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น

· ตรวจสอบความพร้อมของรถยนต์

ขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขาเดินทางไกลหลายร้อยกิโลเมตร การเตรียมความพร้อมของเครื่องยนต์เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เช่น การตรวจเช็กน้ำมัน แบตเตอรี่ น้ำมันเบรก ช่วงล่าง เช็กล้อยาง หม้อน้ำ ระบบไฟหน้า เป็นต้น และอย่าลืมพกเครื่องมือที่ใช้ซ่อมรถติดไว้ด้วย เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารว่าระบบของรถยนต์นั้นพร้อมใช้งาน

· ศึกษาเส้นทาง

ในปัจจุบันการเปิดดูเส้นทางใน GPS เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ หรือแม้แต่รถยนต์บางรุ่นจะมีระบบ GPS ในตัว ทำให้การเดินทางไกลหรือไปยังเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยนั้นง่ายขึ้น หากคุณเป็นมือใหม่ในการขับรถอาจจะต้องศึกษาเส้นทางอีกครั้ง หรือศึกษาเส้นทางจากระบบ GPS ว่าเส้นทางที่จะไปนั้นเป็นอย่างไร ต้องใช้เวลากี่นาที และต้องผ่านจุดไหนบ้าง

· เตรียมพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉิน

หากต้องเดินทางคนเดียวควรบอกคนในครอบครัวให้ทราบว่าคุณกำลังจะเดินทางไปที่ไหน เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันคนครอบครัวคุณจะได้รับทราบและทำการติดต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งนี้ อาจจะบันทึกเบอร์โทรการแจ้งเหตุฉุกเฉินไว้ด้วย เช่น เบอร์โทรตำรวจทางหลวง แจ้งเหตุรถหาย เจ็บป่วยฉุกเฉิน ตำรวจท่องเที่ยว ติดต่อกรมทางหลวงชนบท เป็นต้น

· พักผ่อนให้เต็มที่ก่อนเดินทาง

ก่อนออกเดินทางการนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่และเพียงพอ จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะในขณะขับรถเดินทางไกลๆ อาจจะทำให้คุณมีอาการอ่อนเพลีย หลังจากต้องขับรถนานๆ และเมื่อนอนไม่เพียงพออาจจะทำให้เกิดอาการหลับในได้ ส่งผลให้เกิดอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต ดังนั้น การนอนให้เต็มอิ่มเป็นการเตรียมพร้อมของร่างกายก่อนการเดินทาง

รู้ไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย

ก่อนที่จะลงลึกไปถึงเรื่องของวิธีการขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขาลงเขา ยังมีข้อควรรู้อีกหลายประเด็นในการใช้รถบมท้องถนน และการควบคุมรถยนต์อย่างไรให้ปลอดภัย เพื่อป้องกันอันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุ

· การใช้เบรกอย่างถูกวิธี

เพิ่มความปลอดภัยด้วยการใช้เบรกอย่างถูกวิธี สำหรับการลงเขาคุณจะต้องควบคุมเบรก โดยการเหยียบเบรกสลับกับการปล่อยเบรกเป็นจังหวะไปเรื่อยๆ เช่น การขับรถลงเขาด้วยเกียร์ออโต้เมื่อถึงกลางทางโค้งพยายามเหยียบเบรกเล็กน้อยเพื่อชะลอความเร็ว และปล่อยเบรกพร้อมเลี้ยวเมื่อถึงทางโค้ง แต่ทั้งนี้ ไม่ควรแตะเบรกลากยาวเพราะจะทำให้เครื่องยนต์เกิดความร้อนมากเกินไป

· อย่าลืมให้สัญญาณรถคันอื่นทุกครั้ง

วินัยในการขับรถเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรปฎิบัติตามในการเดินทางทุกครั้ง ด้วยการให้สัญญาณบอกรถคันอื่นๆ ว่าคุณต้องการจะทำอะไร เช่น การเปิดไฟเลี้ยว การเปิดไฟกระพริบ การบีบแตร เปิดไฟสูง เป็นต้น และสัญญาณที่ใช้จะต้องตรงกับสิ่งที่คุณกำลังจะทำ หมายความว่าหากต้องการเลี้ยวซ้าย แต่ให้สัญญาณเลี้ยวขวากับรถยนต์คันอื่นๆ อาจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดและเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น ก่อนให้สัญญาณกับรถยนต์คันอื่นๆ ควรตั้งสติให้ดีก่อนทุกครั้ง

· พยายามอยู่ในเลนของตัวเอง

ทุกๆ ครั้งที่ขับรถขึ้นเขาและลงเขา หรือแม้แต่การขับขี่บนท้องถนนทั่วไป ควรพยายามควบคุมรถอยู่ในเลนของตัวเองและรักษาช่องทางของตัวเองไว้ ไม่ควรขับรถคร่อมเลนถึงแม้ว่าอีกฝั่งจะไม่มีรถก็ตาม เพื่อป้องกันการเฉี่ยวชนจากรถที่สวนมา

· ใช้เกียร์ต่ำเท่านั้น

วิธีขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขาและวิธีขับรถลงเขาด้วยเกียร์ออโต้ควรใช้เกียร์ต่ำเท่านั้น เพราะจะช่วยให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และทำให้สามารถควบคุมรถได้ง่าย เช่น การชะลอความเร็ว หรือ การเข้าทางโค้ง เป็นต้น

· ควบคุมความเร็ว

ปกติการขับรถขึ้นเขาคุณสามารถเติมคั่นเร่งได้เรื่อยๆ โดยพยายามควบคุมความเร็วให้สม่ำเสมอและดูความชันของเส้นทางนั้นๆ สำหรับความเร็วที่แนะนำควรอยู่ที่ 50-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือในบางจุดของเส้นทางจะมีป้ายบอกความเร็วที่เหมาะสมในการขับขี่บนเส้นทางนั้นๆ 

· แวะพักเมื่อรู้สึกเหนื่อย

การขับรถติดต่อกันหลายชั่วโมง สามารถทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์เกิดอาการเหนื่อยล้าได้ และยังเป็นสาเหตุที่พบบ่อยของการเกิดอุบัติเหตุ ตัวอย่างอาการเหนื่อยล้าที่มักพบ เช่น อาการง่วง อาการเลือดไหลเวียนไม่ดี ภาวะขาดน้ำ เป็นต้น ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยควรหยุดพักข้างทางหากมีอาการเหนื่อยล้า ลงมายืดเส้นยืดสาย ทานขนม ดื่มน้ำ เป็นการเติมพลังให้ร่างกายตื่นตัวและกระปรี้กระเปร่าได้

แนะนำวิธีขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นลงเขา

สำหรับวิธีขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขาและวิธีขับรถลงเขาด้วยเกียร์ออโต้นั้นจะมีหลักการคล้ายๆ กันสำหรับการใช้เกียร์ แต่จะข้อแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยในเรื่องของความเร็วและการใช้เบรก

· วิธีขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขา

1. การขับรถขึ้นเขาด้วยระบบเกียร์ออโต้ที่ควรใช้คือ เกียร์ D หรือหากเส้นทางนั้นมีความชันมากๆ ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้เกียร์ D1-D2 ได้ ซึ่งระบบเกียร์ของสองแบบนี้ จะออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับการขับรถขึ้นเขาลงเขาที่มีความชันโดยเฉพาะ แต่เมื่อพ้นทางลาดชันไปแล้วก็ให้กลับมาใช้เกียร์ D ได้ตามปกติ
2. พยายามเหยียบคันเร่งตามจังหวะความชัน โดยให้รอบเครื่องอยู่ประมาณ 2000-3500 รอบ แต่ห้ามเกิน 4000 รอบ
3. ในขณะที่ขับรถขึ้นเขาควรควบคุมความเร็วในการขับให้อยู่ 50-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
4. ต้องเว้นระยะห่างจากรถคันหน้า 30-50 เมตร เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจะทำให้สามารถหลบหลีกได้อย่างทันที

· วิธีขับรถเกียร์ออโต้ลงเขา

1. การขับลงเขาหลักการจะคล้ายๆ กับการขึ้นเขา คุณควรใช้เกียร์ต่ำอย่าง เกียร์ D หรือหากทางลงมีความลาดชันมากๆ สามารถใช้เกียร์ D1-D2 ได้
2. เมื่อเจอทางโค้งที่ลาดชัด คุมความเร็วให้อยู่ที่ประมาณ 30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยขณะที่ลงเขาควรแตะเบรกตามจังหวะของการลงเขา เพื่อเป็นการชะลอความเร็วเท่านั้น ไม่ควรเหยียบเบรกค้าง
3. พยายามมองกระจกหลัง กระจกข้างเป็นระยะ เพื่อสังเกตว่าหากมีรถคันหลังต่อท้ายและจี้ท้ายมากๆ คุณสามารถเปิดไฟซ้ายกระพริบเพื่อให้คันข้างหลังแซงได้ เป็นการป้องกันการชนท้ายรถ

สิ่งที่ไม่ควรทำในการขับรถเกียร์ออโต้และเกียร์กระปุกขึ้นเขาลงเขา

วิธีขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขาและวิธีขับรถลงเขาด้วยเกียร์ออโต้นั้น แท้จริงแล้วก็ไม่ได้ซับซ้อนและน่ากลัวอย่างที่คิด เพียงแค่จำเป็นต้องรู้เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ในการขับขี่ให้ปลอดภัยเท่านั้น แต่ทั้งนี้ยังมีสิ่งที่ไม่ควรทำขณะขับรถขึ้นลงเขาอีก 4 ประเด็นด้วยกัน

· ห้ามเหยียบเบรกตลอดเวลา

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งสำหรับผู้ที่ขับรถลงเขาแล้วทำการเหยียบเบรกลากยาวไปเรื่อยๆ หรือทำการแช่เบรกจะทำให้น้ำมันเบรกเดือด ผ้าเบรกไหม้ และจานเบรกจะสะสมความร้อนไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้พัก ดังนั้น วิธีขับรถลงเขาด้วยเกียร์ออโต้ให้เหยียบเบรกเล็กน้อยสลับกับการปล่อยเบรก เพื่อลดความเร็วและทำให้สามารถควบคุมรถได้ง่ายขึ้น

· ไม่ควรเหยียบคลัตช์ (สำหรับเกียร์กระปุก)

สำหรับรถยนต์ที่ใช้เกียร์กระปุก ไม่ควรเหยียบคลัตช์และเหยียบเบรกไปพร้อมกัน เนื่องจากแรงฉุดของเครื่องยนต์จะถูกตัดระบบ ทำให้การบังคับรถเป็นไปได้ยาก รถไม่เกาะถนน แต่ก็สามารถแตะเบรกบ้างเล็กน้อยในขณะที่ลงเขาเพื่อให้ได้ความเร็วในระดับที่ต้องการ 

· ไม่ควรใช้เกียร์ว่างลงเขา

การใช้เกียร์ว่างหรือ N ในการลงเขาเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะหากใช้เกียร์ว่างลงเขาจะทำให้ชุดเฟืองเกียร์เกิดความร้อนและสึกเร็ว เมื่อทำบ่อยๆ ครั้งจะส่งผลไปยังระบบเบรกและชุดเกียร์ทำให้เกิดความเสียหาย และเกิดอุบัติเหตุได้เพราะสูญเสียการควบคุมได้

· ห้ามแซงทางโค้ง

วิธีขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขาหรือเกียร์กระปุกที่ไม่แนะนำคือ พยายามแซงคันหน้า เพราะด้วยเส้นทางที่ลาดชัดในขณะลงเขาหรือขึ้นเขา มักจะมีมุมอับสายตาหรือทางโค้งเล็กๆ ที่ต้องใช้ความชำนาญในการขับขี่ การแซงด้วยความเร็วจึงเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ อาจจะเกิดอุบัติเหตุรถตกเขาได้

อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ดังนั้น ก่อนออกเดินทางควรศึกษาวิธีขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขาลงเขา การเตรียมความพร้อมทางร่างกาย ตรวจสอบสภาพของเครื่องยนต์ เพื่อให้การขับรถบนเขาที่มีความชันปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และยังต้องคำนึงถึงมารยาทการรักษากฎจราจร มีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน จะทำให้การเดินทางไปท่องเที่ยวในทริปนี้ของคุณมีความสุข มีความมั่นใจในการขับขี่และถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย