วิธีการเล่นกอล์ฟเบื้องต้น เริ่มฝึกตีให้ถูกตั้งแต่พื้นฐาน
การตีกอล์ฟเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมความสนุกที่นอกจากจะดีต่อสุขภาพจิตแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพกายอีกด้วย เพราะวิธีตีกอล์ฟนั้นมีส่วนช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ การตีกอล์ฟยังเป็นการเข้าสังคมรูปแบบหนึ่ง ซึ่งช่วยคลายเหงาได้มากเลยทีเดียว สำหรับใครที่สนใจเล่นกอล์ฟ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ความรู้พื้นฐานเรื่องกติกากอล์ฟก็ไม่มี บทความนี้เป็นอีกหนึ่งบทความที่จะช่วยให้ผู้ที่สนใจการตีกอล์ฟได้เข้าใจวิธีการเล่นกอล์ฟเบื้องต้นและการฝึกกอล์ฟตั้งแต่พื้นฐานเลยทีเดียว
กฎกติกาวิธีการตีกอล์ฟเบื้องต้น
ไม่ว่าจะเป็นกีฬาใดๆ ก็ย่อมมีกฎและกติกาเสมอ การตีกอล์ฟก็มีการบัญญัติกติกาตามสากลไว้เช่นกัน สำหรับนักกอล์ฟมือใหม่ ที่ต้องการฝึกกอล์ฟเบื้องต้น จำเป็นที่จะต้องรู้กฎกติกา เพื่อที่จะได้เล่นได้อย่างถูกต้องและสนุกไปกับการตีกอล์ฟ
• การเล่นแบบแมตช์เพลย์
วิธีตีกอล์ฟแบบแมตช์เพลย์เป็นวิธีการเล่นแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ซึ่งในเกมแบบแมตช์เพลย์จะมีผู้เล่นแข่งขันกันเพียงสองคนเท่านั้น โดยวิธีนับคะแนนแบบแมตช์เพลย์ จะนับจำนวนครั้งในการตี หากใครใช้จำนวนครั้งในการตีเพื่อให้ลูกกอล์ฟลงหลุมน้อยที่สุด ก็จะถือว่าเป็นผู้ชนะในหลุมนั้นไป แต่การที่จะชนะในแมตช์นั้นๆ ได้ จะต้องมีจำนวนหลุมในการชนะมากกว่าอีกฝ่าย ซึ่งจำนวนหลุมนั้นสามารถตกลงกันได้ว่าจะเล่นกันทั้งหมดกี่หลุม นอกจากนี้ หากประเมินแล้วว่าอีกฝ่ายมีแววชนะแน่ๆ เราจะยอมแพ้ยกธงขาวในหลุมนี้เลยก็ได้ แล้วค่อยไปแก้ตัวในหลุมต่อไป
• การเล่นแบบสโตรคเพลย์
รูปแบบการตีกอล์ฟแบบสโตรคเพลย์เป็นวิธีการเล่นกอล์ฟที่มีความคล้ายคลึงกับวิธีตีกอล์ฟแบบแมตช์เพลย์ แต่อาจจะแตกต่างกันที่ การเล่นแบบสโตรคเพลย์สามารถมีผู้เล่นได้หลายคนในหนึ่งการแข่งขัน ที่สำคัญผู้เล่นทุกคนจะต้องตีกอล์ฟให้ลงหลุมในทุกๆ หลุม ไม่สามารถยอมแพ้ได้ ซึ่งการนับคะแนนการตีกอล์ฟแบบสโตรคเพลย์นั้น จะนับจำนวนครั้งที่ตีในแต่ละหลุมแล้วนำมารวมกันเป็นคะแนนสุดท้ายเพื่อหาผู้ชนะ ทั้งนี้ โดยปกติกฎกติกาการตีกอล์ฟไม่ได้กำหนดครั้งสูงสุดในการตี แต่สำหรับบางการแข่งขันอาจมีการกำหนดจำนวนครั้งสูงสุดที่ตีได้ในแต่ละหลุมด้วย
วิธีการนับคะแนน
วิธีการนับคะแนนกอล์ฟนั้นอาจจะมีรูปแบบที่แตกต่างจากวิธีการนับคะแนนในกีฬาอื่นๆ อยู่สักหน่อย โดยปกติแล้วกีฬาอื่นๆ เช่น ฟุตบอล หรือบาสเกตบอล หากผู้เล่นหรือทีมใดทำคะแนนได้มากกว่าจะถือว่าเป็นผู้ชนะในเกมนั้นไป แต่สำหรับกีฬากอล์ฟจะนับคะแนนจากจำนวนครั้งที่ตีในแต่ละหลุม หากผู้เล่นคนใด เมื่อรวมคะแนนแล้วมีจำนวนน้อยที่สุดจะถือว่าเป็นผู้ชนะในเกมนั้น ซึ่งในแต่ละหลุมจะมีการกำหนดพาร์ (Par) ขึ้นมาตามระยะและความยากในการตี ซึ่งจะมีการเรียกที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้ เช่น หลุมนี้กำหนดพาร์ห้า
• พาร์ (Par): หากตีลงหลุมภายใน 5 ครั้งผู้เล่นจะได้คะแนนพาร์ คือ ศูนย์คะแนน
• เบอร์ดี้ (Birdie): เป็นการตีลงหลุมภายใน 4 ครั้ง หรือ น้อยกว่าพาร์ 1 ครั้ง ผู้เล่นจะได้ลบหนึ่งคะแนน
• อีเกิล (Eagle): เป็นการตีลงหลุมภายใน 3 ครั้ง หรือ น้อยกว่าพาร์ 2 ครั้ง ผู้เล่นจะได้ลบสองคะแนน
• ดับเบิลอีเกิล (Double Eagle) หรือ อัลบาทรอสส์ (Albatross): เป็นการตีลงหลุมภายใน 2 ครั้ง หรือ น้อยกว่าพาร์ 3 ครั้ง ผู้เล่นจะได้ลบสามคะแนน
• โฮลอินวัน (Hole-in-One): เป็นการตีลงหลุมได้ภายในครั้งเดียว โดยส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นในหลุมที่เป็นพาร์สาม แต่บางครั้งก็สามารถพบได้ในพาร์สี่เช่นกัน
• โบกี้ (Bogey): การตีที่เรียกว่าโบกี้เป็นการตีที่เกินจำนวนพาร์ที่ตั้งไว้ จะต้องได้บวกหนึ่งคะแนน
จัดระเบียบท่าทางการเล่นกอล์ฟเบื้องต้น
วิธีการเล่นกอล์ฟนอกจากการตีลูกกอล์ฟเพื่อให้ลงหลุมแล้ว ยังมีขั้นตอน การจัดระเบียบท่าทาง ร่างกายในการเล่นกอล์ฟด้วย ซึ่งหากมีการวางท่าทางที่ถูกวิธีก็จะช่วยเพิ่มแรงส่งในการตีกอล์ฟให้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยส่งเสริมวงสวิงให้สวยงามขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญการจัดระเบียบท่าอย่างที่เหมาะสมยังช่วยส่งเสริมสุขภาพ และลดการบาดเจ็บที่เกิดจากการเล่นกอล์ฟได้
• ท่าจับไม้กอล์ฟที่ถูกต้อง
การฝึกกอล์ฟเบื้องต้นจะต้องเริ่มเรียนรู้ตั้งแต่วิธีจับไม้กอล์ฟที่ถูกต้อง เพราะท่าทางในการจับถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่มีความสำคัญสำหรับมือใหม่ หากมีพื้นฐานที่แน่น จับกริพถูกต้องก็จะช่วยให้นักกอล์ฟควบคุมทิศทางในการตีลูกได้อย่างแม่นยำและช่วยให้ตีกอล์ฟได้ดีขึ้น ซึ่งท่าทางการจับกริพมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
1. สำหรับผู้ที่ถนัดขวา ให้ใช้ไม้กอล์ฟวางพาดโคนนิ้วก้อย พาดผ่านลงไปบริเวณข้อกลางของนิ้วชี้ข้างซ้าย โดยปล่อยปลายกริพเลยฝ่ามือไปประมาณ 1 นิ้ว
2. กำมือซ้ายแล้ววางนิ้วโป้งซ้ายลงบนสันกริพ โดยขนานไปกับแนวไม้
3. สอดมือขวา โอบนิ้วโป้งข้างซ้าย และกำรอบไม้ไว้ให้กระชับ โดยที่ให้นิ้วโป้งขวาอยู่บนสันกริพแนวเดียวกับนิ้วโป้งซ้าย
• ลักษณะวิธีการยืน
การเรียนรู้วิธีตีกอล์ฟจะต้องเรียนรู้ลักษณะวิธีการยืนที่ถูกต้องด้วย เพราะท่ายืนที่เหมาะสมมีส่วนช่วยในการควบคุมและถ่ายเทน้ำหนักไปยังการตี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมวงสวิงในการตีให้ดียิ่งขึ้น โดยวิธีการยืนจะต้องกางเท้าให้มีความกว้างเท่ากับหัวไหล่ ส่วนแนวทางในการวางเท้าอาจแตกต่างกันออกไป เช่น วางเท้าขนานกับพื้น วางเท้าซ้ายเปิดออกเล็กน้อย หรือจะเปิดเท้าขวาออก แต่สำหรับบางคนอาจจะเปิดเท้าทั้งสองข้าง ทั้งนี้ สิ่งสำคัญ คือ ควรให้น้ำหนักการยืนลงที่ส้นเท้าตลอดการสวิง เพราะจะช่วยให้คุณทรงตัวได้ดี มีความมั่นคง และสมดุล
• จัดระเบียบร่างกาย
นอกจากลักษณะวิธีการยืนแล้ว การจัดระเบียบร่างกายในส่วนอื่นๆ ก็ถือเป็นเรื่องกอล์ฟพื้นฐานที่ควรรู้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหัวเข่า ลำตัว หัวไหล่ และศีรษะ ซึ่งร่างกายในแต่ละส่วนมีวิธีการจัดวางที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้วงสวิงที่สวยงาม และมีประสิทธิภาพ ดังนี้
• หัวเข่า: หัวเข่าจะต้องงอเพียงเล็กน้อย ท่าทางคล้ายกำลังจะนั่งเก้าอี้ และควรหนีบเข่าเข้าหากันเล็กน้อย ไม่เปิดเข่าทั้งสองข้างออก เพื่อช่วยให้มีความมั่นคงและรักษาสมดุลขณะตีวงสวิง
• ลำตัว: ต้องโน้มตัวไปข้างหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังและลำตัวต้องตรง และให้น้ำหนักส่วนใหญ่อยู่ที่สะโพก เพื่อช่วยให้ร่างกายส่วนบนหมุนขณะวาดวงสวิงได้ดีขึ้น
• มือและแขน: ตำแหน่งของมือในการจับกริพที่ถูกต้องคือ ปลายกริพจะชี้ไปที่หัวเข็มขัด โดยที่เหลือปลายกริพไว้ประมาณ 1 นิ้ว ส่วนแขนปล่อยลงมาตามแรงโน้มถ่วงธรรมชาติ โดยที่แขนซ้ายจะเหยียดตรง
• หัวไหล่: การจับไม้กอล์ฟมือข้างที่ถนัดจะอยู่ด้านล่างซึ่งต่ำกว่ามืออีกข้าง ดังนั้น สำหรับผู้ที่ถนัดข้างขวา ไหล่ขวาก็จะอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าไหล่ซ้ายเล็กน้อย ตามท่าทางในการจับกริพ แต่หากตำแหน่งท่าทางหัวไหล่ไม่ถูกต้อง อาจส่งผลทำให้กระดูกสันหลังคดได้
• ศีรษะ: สำหรับศีรษะไม่ควรก้มหน้า วางใบหน้าให้อยู่ในระดับที่เกือบจะตั้งฉากกับพื้น และใช้การกลอกดวงตาในการมองลูกแทนการก้มหน้า
• เรียนรู้การเคลื่อนไหวในมุมสวิง
เมื่อเรียนรู้การจัดระเบียบร่างกายกันแล้ว ขั้นตอนต่อไปในการเรียนรู้วิธีตีกอล์ฟก็เริ่มเข้าสู่การตีลูก การที่จะตีลูกให้ได้ดี มีวงสวิงที่สวยและสมบูรณ์แบบ จะต้องเริ่มจากท่าทางการยืน การจับไม้ และการจัดระเบียบร่างกายที่ถูกต้อง เพื่อเป็นแรงส่งให้เหวี่ยงไม้ได้ดี เริ่มด้วยการยกไม้ขึ้น เปิดสะโพกซ้าย หมุนไปด้านหลัง และถ่ายเทน้ำหนักจากซีกขวาไปยังซีกซ้าย (Black Swing) หลังจากนั้น เคลื่อนสะโพกซ้าย คล้ายย่ำเท้าอยู่กับที่ (Down Swing) แล้วเหวี่ยงแขนตีลูกตามแรงเหวี่ยงพร้อมบิดสะโพกตาม (Impact) หลังจากตีลูกไปแล้วให้เหยียดแขนตึงทั้งสองข้าง โดยเท้ายังคงยืนนิ่งเพื่อรักษาสมดุล (Follow Through)
แนะนำไม้กอล์ฟที่ควรมีสำหรับมือใหม่
ปัญหาการเลือกซื้อไม้กอล์ฟเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำหรับผู้ที่เริ่มต้นตีกอล์ฟ เพราะไม้กอล์ฟนั้นมีหลากหลายรูปแบบ แต่ละชนิดก็มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดยมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นการฝึกกอล์ฟเบื้องต้น ไม้กอล์ฟที่ควรมีไว้ในกระเป๋า คือ หัวไม้หนึ่ง (Driver) ไม้หัวไม้แฟร์เวย์ (Fairway Wood) หัวไม้ไฮบริด (Utility) ไม้หัวเล็กเบอร์ 7 กับ 9 พิชชิ่งเวดจ์ (PW) แซนเวดจ์ (SW) และพัตเตอร์
นอกจากนี้ ก่อนจะซื้อไม้กอล์ฟควรคำนึงถึงน้ำหนักของไม้ด้วยว่า มีความเหมาะสมกับตนเองหรือไม่ หากเป็นผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นอาจจะเลือกไม้กอล์ฟที่มีน้ำหนักเบา โค้งงอได้ง่าย เพราะใช้ตีได้ง่ายและสะดวก รวมไปถึง ควรทดลองสินค้าด้วยตัวเอง เพราะจะช่วยให้นักกอล์ฟเข้าใจความแตกต่างของไม้แต่ละแบบได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยไม้แต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติและวิธีใช้ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะใช้สำหรับการเล่นรูปแบบใดบ้าง ไปดูกัน
• หัวไม้หนึ่ง (Driver)
หัวไม้หนึ่ง เป็นหัวไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ยาวที่สุดและองศาหน้าไม้น้อยที่สุด ซึ่งในสมัยก่อนส่วนของหัวไม้ทำจากไม้จริงๆ จึงเรียกว่า หัวไม้หนึ่ง แต่ในปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นวัสดุอื่นๆ แล้ว โดยหัวไม้หนึ่งถือเป็นไม้เริ่มต้นใช้ตั้งลูกและใช้ตีบนแท่นที
• หัวไม้แฟร์เวย์ (Fairway Wood)
หัวไม้แฟร์เวย์ เป็นหัวไม้ที่มีขนาดเล็กกว่าหัวไม้หนึ่ง นิยมใช้ในการตีระยะไกล ซึ่งสำหรับหัวไม้แฟร์เวย์นั้นจะมีองศาหน้าให้เลือกหลายระดับ ที่ถูกกำหนดให้เป็นเลขคี่ อย่าง 3 5 7 9 11 โดยตัวเลของศาและความยาวนั้นจะมีความสัมพันธ์กัน เช่น หัวไม้แฟร์เวย์ 3 จะเป็นไม้ที่มีองศาน้อยแต่ความยาวมากที่สุด
• หัวไม้ไฮบริด (Hybrid)
หัวไม้ไฮบริดเป็นหัวไม้น้องใหม่ ที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน มีขนาดหัวที่เล็กกว่าหัวไม้แฟร์เวย์ นอกจากนี้ ยังมีชื่ออื่นๆ ด้วย คือ Utility และ Rescue ซึ่งหัวไม้ไฮบริดเป็นหัวไม้ที่ใช้ตีในระยะไกล โดยใช้แทนไม้แฟร์เวย์ที่ตีและควบคุมได้ยากกว่า ที่สำคัญหัวไม้ชนิดนี้มีให้เลือกหลายองศา โดยจะกำหนดเป็นตัวเลข 1 2 3 4 5
• ชุดเหล็ก (Iron Set)
ชุดเหล็กนั้นจะประกอบด้วยเหล็กจำนวนหลายชิ้นตั้งแต่ 6 – 8 ชิ้น โดยเหล็กแต่ละเบอร์จะมีขนาดขององศาหน้าไม้และความยาวที่ต่างกัน เพื่อใช้เล่นในระยะที่แตกต่างกันออกไป เช่น เบอร์ที่เลขสูงๆ จะใช้ตีในระยะใกล้ ในขณะที่เบอร์เลขต่ำๆ จะใช้ตีในระยะไกลกว่า
• เวดจ์ (Wedge)
เวดจ์เป็นไม้ที่พัฒนามาจากชุดเหล็ก ใช้สำหรับการตีในระยะที่สั้น โดยระยะส่วนใหญ่คือต่ำกว่า 100 หลา หรือตีในช็อตระยะใกล้กรีน นอกจากนี้ เวดจ์ยังใช้ตีในหลุมทราย เนื่องจากมีระยะองศาที่สูง ช่วยให้ลูกโด่งมากขึ้น
• พัตเตอร์ (Putter)
พัตเตอร์ส่วนมากจะมีความยาวประมาณ 33 – 35 นิ้วและมีองศาหน้าไม้ 3 – 5 องศา โดยพัตเตอร์เป็นไม้ที่ใช้ตีบนกรีนเพื่อให้ลูกกอล์ฟลงหลุม ซึ่งถือเป็นไม้ที่ใช้ตีเพื่อสิ้นสุดในการเล่นแต่ละหลุม
อุปกรณ์ตีกอล์ฟอื่นๆ ที่ควรมีติดกระเป๋า
ในการตีกอลฟไม่ได้มีเพียงไม้กอล์ฟเท่านั้น แต่ยังต้องมีสิ่งอื่นๆ เพิ่มเติมจึงจะสามารถเล่นกอล์ฟได้ ซึ่งมีดังนี้
- ลูกกอล์ฟ ที่ควรเลือกให้เหมาะสมกับการเล่น
- รองเท้ากอล์ฟ ต้องเลือกรองเท้าที่มีขนาดพอดีเท้า สวมใส่แล้วรู้สึกสบาย นอกจากนี้ การใส่รองเท้าที่พอเหมาะพอดียังช่วยส่งเสริมวงสวิงให้ดีขึ้นอีกด้วย
- ถุงมือกอล์ฟ เลือกขนาดของถุงมือให้มีความพอดี กระชับกับมือ เพื่อให้จับไม้กอล์ฟได้ถนัด
- แท่นที เป็นที่ตั้งลูกกอล์ฟ
- มาร์คเกอร์
- ที่นับสกอร์ ตัวช่วยในการนับคะแนน
อุปกรณ์สำหรับเพิ่มความสะดวก
การเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ช่วยให้การเล่นกอล์ฟสนุกมากขึ้น โดยไม่ต้องคอยกังวลใจ ซึ่งการเตรียมของสำหรับอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะการอยู่กลางสนามกอล์ฟเป็นเวลานานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ยิ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีแสงแดดเกือบตลอดทั้งวัน เราจะต้องเตรียมตัวให้ดี เพื่อให้เพลินเพลิดไปกับกอล์ฟ และไม่ต้องคอยกังวลกับสภาพอากาศ
· เครื่องดื่ม
เครื่องดื่มเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่น หากได้เครื่องดื่มเย็นๆ ยามเล่นกีฬามาเหนื่อยๆ ก็ช่วยให้ร่างกายกระชุ่มกระชวยขึ้นมาได้ บางคนอาจจะเตรียมเป็นน้ำเย็น น้ำผลไม้ หรือบางคนอาจจะเตรียมเป็นเครื่องดื่มเกลือแร่เพื่อทดแทนเหงื่อที่เสียไปก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
· อุปกรณ์สำหรับกันแดด
ด้วยสภาพอากาศประเทศไทย สิ่งที่ช่วยป้องกันแสงแดดเป็นสิ่งที่นักกอล์ฟทุกคนควรเตรียมพร้อม ไม่ว่าจะเป็น ครีมกันแดด ร่ม เสื้อแขนยาว หรือแว่นตา เพื่อช่วยทุเลาความร้อนลงไปได้บ้างแล้ว รวมถึง ยังช่วยปกป้องผิวและดวงตาจากแสงแดดได้ดีอีกด้วย
หลายๆ คนอาจจะกำลังสนใจวิธีตีกอล์ฟอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นการฝึกกอล์ฟเบื้องต้นอย่างไร บทความนี้ได้รวบรวมวิธีการเล่นกอล์ฟพื้นฐาน และการเตรียมอุปกรณ์กอล์ฟสำหรับมือใหม่ รวมไปถึง การจับไม้กอล์ฟ ท่ายืน และมุมสวิงที่จะช่วยในการฝึกกอล์ฟเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ หากใครกำลังมองหาสนามกอล์ฟ และที่พักสุดหรูท่ามกลางธรรมชาติที่แสนสวยงามและอากาศบริสุทธิ์ของเทือกเขาดงพญาเย็น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สามารถมาได้ที่ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรีคลับ เขาใหญ่ ซึ่งเปิดให้บริการสนามกอล์ฟที่ได้มาตรฐาน 18 หลุม พาร์ 72 ระดับแชมป์เปี้ยนชิป ที่พร้อมท้าทายความสามารถของนักกอล์ฟทุกระดับฝีมือ