10 อันดับ สถานที่เที่ยวธรรมชาติที่สวยที่สุดในโลก
บทความนี้จะมาเอาใจสายรักธรรมชาติ มาดื่มด่ำทัศนียภาพอันสวยงาม แล้วดำดิ่งไปสู่โลกธรรมชาติที่สวยที่สุดในโลก ให้เฉดสีเขียวจากธรรมชาติช่วยบำบัดคลายความเหนื่อยล้าของสายตา แล้วมาท่องเที่ยวไปด้วยกันกับ 10 อันดับสถานที่เที่ยวธรรมชาติสวยที่สุดในโลก
1. Valley of flowers National Park ประเทศอินเดีย
ใครจะไปเชื่อว่า หุบเขาดอกไม้หรือ Valley of Flowers National Park นั้นตั้งอยู่ในประเทศอินเดีย ในรัฐทางตอนเหนือที่มีชื่อว่ารัฐอุตตราขัณฑ์ (Uttarakhand) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาตินันทาเทวี และยังได้ถูกได้รับเลือกว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยที่สุดในโลกและเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อของอินเดียอีกด้วย โดยคุณจะสามารถพบกับดอกไม้หายากนานาพันธุ์มากกว่า 520 สายพันธุ์
ช่วงฤดูที่เหมาะที่สุดของนักท่องเที่ยว : ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมไปจนถึงสิงหาคม โดยเป็นช่วงที่ดอกไม้นานาพันธุ์ต่างแข่งขันกันเบ่งบานเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชื่นชมความงามไปทั่วทั้งขุนเขานั่นเอง
2. Faroe Islands ประเทศนอร์เวย์
Faroe Island หรือหมู่เกาะแฟโร ตั้งอยู่ในมหาสมุทนแอนแลนติกเหนือที่อยู่ภายใต้การปกครองของประเทศเดนมาร์ก ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างนอร์เวย์และไอซ์แลนด์ โดยแฟโรเป็นเกาะเล็กๆ ที่สวยงามตระการตาจนอาจจะทำให้คุณหยุดหายใจไปชั่วขณะเลยทีเดียว ถือเป็นสวรรค์แห่งนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความสวยงามอันไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากนั้น ยังมีโรงแรมระดับ 5 ดาว ร้านอาหาร ร้านกาแฟ บาร์ต่างๆ รวมถึงสถานที่จัดนิทรรศการที่เปิดให้บริการเพื่อเสิร์ฟทุกความสุขและความสนุกให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี จนต้องบอกว่าครบจบในที่เดียว ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติทั่วโลกที่สายรักธรรมชาติต้องมาเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิต
ช่วงฤดูที่เหมาะที่สุดของนักท่องเที่ยว : ตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงสิงหาคม
3. Yosemite National Park ประเทศสหรัฐอเมริกา
เพลิดเพลินไปกับอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite National Park) แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เปี่ยมด้วยทัศนยภาพของทิวเขาผาสูงตระการตา ซึ่งถูกโอบล้อมด้วยต้นสนที่มีจุดเด่นและเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติจากทั่วมุมโลกที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ราวกับต้องมนต์ เพราะฉะนั้น หากคุณได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้แล้วจะต้องไม่พลาดไฮท์ไลท์สำคัญอย่าง Mirror Lake ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นท้องฟ้าและภูเขาที่ถูกสะท้อนลงบนทะเลสาบได้อย่างปราณีต เรียกว่าเป็นทัศนียภาพที่เพียงแค่ได้เห็นก็คลายความเหนื่อยล้าหายเป็นปลิดทิ้ง
ช่วงฤดูที่เหมาะที่สุดของนักท่องเที่ยว : ตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงสิงหาคม
4. The Great Blue Hole ประเทศเบลิซ
The Great Blue Hole หลุมยักษ์น้ำเงินครามแห่งเบลิซ ที่ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของอเมริกากลางริมทะเลแคริบเบียน ขวัญใจนักดำน้ำที่คุณจะสามารถดำดิ่งชื่นชมความงามของแนวประการัง นอกจากนี้คุณยังสามารถพบเจอกับปลาหลากหลายสายพันธุ์ จึงนับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติจากทั่วทุกมุมโลกที่น่าดำน้ำมากที่สุด นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งของแนวปะการังเบลิซยังเป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกภายใต้การดูแลของ UNESCO อีกด้วย นับว่าเป็นสถานที่ที่ควรมาเยี่ยมเยือนสักครั้ง โดยเฉพาะหากคุณเป็นนักดำน้ำมืออาชีพต้องหาโอกาสมาทดสอบความสามารถและดื่มด่ำความงดงามที่ไม่สามารถหาได้จากที่ใดบนโลก
ช่วงฤดูที่เหมาะที่สุดของนักท่องเที่ยว : ตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนพฤษภาคม
5. Fairy Pools ประเทศสกอตแลนด์
Fairy Pool สระว่ายน้ำธรรมชาติที่หลายต่อหลายคนลงความเห็นว่าเปรียบเสมือนสวรรค์บนดินของเหล่านางฟ้าที่ต้องการลงมายังพื้นโลกแห่งนี้ ที่สำคัญสระแห่งนี้ยังถูกแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สุดสวยที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งมีสถานที่ตั้งอยู่บนหุบเขาเกลน บริทเทิล ที่อยู่บริเวณทางตอนใต้ของเกาะ Isle of Skye หมู่เกาะที่อยู่นอกชายฝั่งตะวันตกของสกอตแลนด์อีกด้วย ซึ่งสถานที่แห่งนี้ถูกโอบล้อมด้วยกำแพงหินที่ตั้งตระง่านและถูกปกคลุมด้วยหมู่มลแมกไม้สีเขียวชอุ่ม
ดังนั้น นักท่องเที่ยวจึงจำเป็นต้องเดินเท้าด้วยระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ถึงแม้ว่าหนทางจะไม่ลำบากมากนักแต่ต้องอาศัยการลัดเลาะไปตามโขดหินและก้อนกรวด ซึ่งอาจจะมีดินโคลนประปราย จึงจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวัง โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน เรียกได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักเดินทางไกลที่จะได้พบเจอกับธารน้ำใสท่ามกลางความสวยงามที่ถูกรังสรรค์จากธรรมชาติ
ช่วงฤดูที่เหมาะที่สุดของนักท่องเที่ยว : ตั้งแต่เดือนเมษายนไปจนถึงเดือนสิงหาคม
6. Cenotes of Yucatan Peninsula ประเทศเม็กซิโก
หลุมว่ายน้ำธรรมชาติอันแสนมหัศจรรย์ของประเทศเม็กซิโก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่สักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่า Mayan นับตั้งแต่เข้ามาตั้งรกรากถิ่นฐาน โดยพวกเขาจะใช้สระน้ำแห่งนี้เพื่อเป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อสารกับทวยเทพ โดย Cenotes มีความหมายว่า “Sacred Well” บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในปัจจุบันสถานที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่เหล่านักดำน้ำต่างพากันหลงใหล และต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่ราวกับคุณกำลังด่ำดิ่งสู่อีกโลกหนึ่ง จึงนับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่ขึ้นชื่อมากที่สุดแห่งหนึ่งจากทั่วทั่วโลกที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
ช่วงฤดูที่เหมาะที่สุดของนักท่องเที่ยว : ช่วงปลายเดือนตุลาคม และช่วงกลางเดือนพฤษภาคม
7. Zhangjiajie National Forest Park ประเทศจีน
อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย อีกหนึ่งแรงบันดาลในการผลิตผลงานภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง อวตาร (Avatar) โดยอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยเปรียบเสมือนเมืองภูเขาลอยฟ้าแห่งดาวแพนดอร่าที่นับว่าเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกทั้งยังได้รับการรองรับขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี ค.ศ. 1992 ซึ่งนับเป็นความสวยงามที่ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้มีโอกาสสัมผัสธรรมชาติแบบเต็มรูปแบบ 360 องศา ดังนั้นหากคุณได้มาเที่ยวละก็จะต้องไม่พลาดกับกิจกรรมนั่งกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก พร้อมเดินเท้าลัดเลาะกระจกริมผาที่มีความสูงมากกว่า 1,433 เมตร ในระหว่างทางยังมีลำธารมากมายให้คุณได้พักให้หายเหนื่อยจากการเดินทางอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งในสถานที่เอาใจสายธรรมชาติอย่างแท้จริง
ช่วงฤดูที่เหมาะที่สุดของนักท่องเที่ยว : ตั้งแต่เดือนเมษายนไปจนถึงเดือนพฤษภาคม และช่วงเดือนกันยายนไปจนถึงเดือนตุลาคม
8. Machu Picchu ประเทศเปรู
มาชู ปิกชู เจ้าของฉายาเมืองสาบสูญแห่งอินคา ณ ประเทศเปรู ดินแดนในฝันของใครหลายคน ที่สำคัญยังเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มีมาตั้งแต่ในสมัยโบราณ โดยภายนอกถูกรายล้อมด้วยยอดเขาสูงเฉียดฟ้าจากเทือกเขาแอนดีส ทั้งยังมีซากเมืองโบราณของอารยธรรมอินคาซ่อนอยู่ จึงนับว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยที่สุดในโลกที่สามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มายังสถานที่แห่งนี้ได้ ถึงแม้ว่าเส้นทางการมาถึงสถานที่แห่งนี้จะลำบากแต่นับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์อันแสนคุ้มค่าและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหล่านักท่องเที่ยวสายธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ทุกคนยังมีโอกาสได้เห็นเห็นวิวทิวทัศน์จากภูเขาน้อยใหญ่แล้ว ตลอดเส้นทางยังมีแม่น้ำ Urabamba ไหลผ่านตามซอกเขา ดังนั้น หากคุณพกดวงมาด้วยบางครั้งอาจจะได้รับการต้อนรับที่ดีจากเจ้าบ้านอย่างอัลปาก้าและลามาอีกด้วย นับเป็นผังเมืองที่มหัศจรรย์ที่มีการวางระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ได้อย่างเป็นระเบียบ ทั้งยังมีศูนย์กลางทางศาสนา และมีสิ่งก่อสร้างที่เกี่ยวเนื่องกับดาราศาสตร์อีกด้วย ดังนั้น สิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่ถูกสร้างจึงถูกลดหลั่นลงมาในลักษณะขั้นบรรได ในขณะที่ตามเชิงเขาก็จะมีมีบันไดหลายพันขั้นเชื่อมต่อกันอย่างไร้ที่ติ
ช่วงฤดูที่เหมาะที่สุดของนักท่องเที่ยว : ตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนสิงหาคม เนื่องจากเป็นช่วงปราศจากฝน
9. Iguazu Fall ประเทศบราซิล และอาร์เจนตินา
น้ำตกอีกวาซู หรือ สายน้ำอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นภาษากวารานี (Guarani) ของชนเผ่าอินเดียแดง นับเป็นมรดกโลกที่ถูกรับรองจาก UNESCO และยังเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติยุคใหม่ (New Seven Wonders of Nature) แห่งปี 2011 เรียกว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่ถูกรังสรรค์มาอย่างบรรจง ฉะนั้น หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติจากทั่วโลก บางครั้งคุณอาจจะได้รับการต้อนรับจากสัตว์ท้องถิ่นน้อยใหญ่ไม่ว่าจะเป็น นกไทนามัส แมวป่าโอเซล เสือจากัวร์ และสัตว์นานาชนิดอีกมากมาย
ช่วงฤดูที่เหมาะที่สุดของนักท่องเที่ยว : ช่วงต้นมีนาคมไปจนถึงเมษายน และช่วงเดือนสิงหาคมไปจนถึงช่วงปลายเดือนตุลาคม
10. Trolltunga ประเทศนอร์เวย์
เส้นทางแห่งผู้พิชิตเนินผา Trolltunga (โทรลส์ทุงกา) หรือ ลิ้นของโทรลส์ โดยสาเหตุที่ถูกเรียกเช่นนี้เนื่องจาก ลักษณะของผาที่ยื่นออกมานั้นมีลักษณะรูปร่างเหมือนแผ่นหินซึ่งยื่นออกไปจากหน้าผาที่สูงลิบเหนือทะเลสาบ Ringedalsvatnet ถึง 700 เมตร โดยตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของที่ราบสูง Hardangervidda ใกล้เมือง Odda และหากคุณรู้ตัวว่าเป็นสายเดินเขาละก็ ควรที่จะหาโอกาสมาพิชิตสักครั้งเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติจากทั่วโลกที่ต้องอาศัยระยะเวลาในการเดินเขาประมาณ 9 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ช่วงฤดูที่เหมาะที่สุดของนักท่องเที่ยว : ตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงกันยายน
หลังจากดื่มด่ำกับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยที่สุดในโลกอย่างเพลิดเพลินแล้ว ต้องบอกเลยว่าแต่ละสถานที่นั้นมีความสวยงามราวกับต้องมนต์ ไม่ว่าจะทัศนียภาพภูเขา น้ำตก หรือทะเล ล้วนแต่เป็นสถานที่ที่จะช่วยให้คุณได้เยี่ยวยาสภาพจิตใจที่เหนื่อยล้ามาทั้งปีได้เป็นอย่างดี แม้ว่าสถานที่แต่ละแห่งตั้งอยู่ในบริเวณที่ยากต่อการเข้าถึงก็ตาม แต่นับว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่าขนาดที่ว่าสายธรรมชาติต้องไปสักครั้งในชีวิต หากใครเป็นสายธรรมชาติแล้วกำลังแพลนเที่ยวอยู่ อย่าลืมเก็บ 10 สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติทั่วโลกเหล่านี้ไว้ในลิสต์แล้วเตรียมปอดไปพร้อมแล้วไปสูดอากาศบริสุทธิ์กลับมาให้เต็มปอด