10 สถานที่เที่ยวธรรมชาติสวย ภาคอีสาน คัดมาแล้วแบบเน้นๆ
อีสานเป็นหนึ่งในภูมิภาคของไทย ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติภาคอีสาน แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมประเพณีที่โดดเด่น หรือแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า ส่วนหนึ่งก็เพราะแผ่นดินอีสานดั้งเดิม เคยเป็นดินแดนอารยธรรมที่ราบสูง ที่รุ่งเรืองตั้งแต่ครั้งโบราณ จนทำให้สำนักข่าว CNN ยกย่องให้เป็น 1 ใน 17 แหล่งท่องเที่ยว ที่น่าเดินมาเที่ยวมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีแลนด์มาร์คตามสถานที่ต่างๆ ในภาคอีสานที่น่าสนใจ ซึ่งวันนี้เราจะพาไปท่องเที่ยวเรียนรู้มุ่งสู่อารยธรรม กับ 10 สถานที่เที่ยวธรรมชาติสวย ภาคอีสาน คัดมาแล้วแบบเน้น ๆ ไปดูพร้อมกันเลย
1. อุทยานแห่งชาติภูแลนคา
ภูแลนคาสถานที่ท่องเที่ยวสุด Unseen ของจังหวัดชัยภูมิ เป็นภูเขาหินสลับซับซ้อน รูปร่างแปลกตา ลักษณะเป็นลานหินกว้าง สูง 650 เมตร จากระดับน้ำทะเล มียอดภูคีเป็นยอดเขาสูงที่สุดถึง 1,038 เมตร และยังมีมอหินขาวที่เต็มไปด้วยหินดึกดำบรรพ์ อายุยาวนานมารวมกันอยู่ แลนด์มาร์คภาคอีสานที่ภูแลนคา คือ ผาหัวนาค จุดชมความงามพระอาทิตย์ตกดินที่โรแมนติกที่สุด ส่วนใครเป็นสายเทรกกิ้งชอบเดินป่า จะต้องหลงรักภูแลนคาอย่างแน่นอน เพราะเส้นทางธรรมชาติของที่นี่อุดมสมบูรณ์ไม่แพ้ที่ใด นอกจากนั้นยังมีจุดกางเต็นท์สวย ๆ พักผ่อนกันแบบฟิน ๆ นอนกินลมชมหมอกแบบเพลิน ๆ อีกด้วย ช่วงที่เหมาะสำหรับเที่ยวภูแลนคา คือ เดือนพฤษภาคม-ธันวาคม
จุดเที่ยวที่น่าสนใจ
- มอหินขาว: ที่เรียกว่า Stonehenge เมืองไทย เป็นหินสีขาวที่ตกผลึกเป็นเสาหิน จำนวน 5 ต้น มีชื่อเรียกต่างกัน คือ ขุนศรีวิชัย หลวงปู่ฤาษี หลวงสมชาย หลวงจันทร์ หมื่นสิงขร มอหินขาวสวยงามแปลกตา ใกล้ ๆ กันยังมีกลุ่มหินโขลงช้าง ที่เป็นอีกจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
- จุดชมวิวผาหัวนาค: ความสูง 950 เมตร หน้าผามีรูปร่างคล้ายหัวพญานาค มีลักษณะยื่นออกไป เป็นจุดชมวิวแบบพาโนรามามองเห็นวิวรอบทิศทาง 360 องศา ใครได้มาชมทะเลหมอกหน้าฝนที่ผาหัวนาค รับรองว่าจะลืมที่อื่นเลยทีเดียว
กิจกรรมที่แนะนำ
- เดินป่าศึกษาธรรมชาติที่ภูแลนคา ป่าไม้มีความอุดมสมบูรณ์ และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด ภายในมีเส้นทางเดินป่าจำนวน 3 เส้นทาง คือเส้นทางยอป่า เส้นทางหลังฝาย และเส้นทางผากล้วยไม้-หินปราสาท-หินประตูโขลงที่ระยะทางยาวที่สุด ทั้งนี้ แต่ละเส้นทางจะแตกต่างกันในเรื่องของความสูงชัน ความยากง่าย นับว่าเป็นกิจกรรมในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติของภาคอีสานที่พลาดไม่ได้
- จุดกางเต็นท์ ใครที่เป็นสายแค้มปิ้ง ที่นี่มีจุดกางเต็นท์บริการถึง 3 จุดด้วยกัน จุดที่อยากแนะนำ คือลานดงสน ที่เงียบสงบ อยู่บริเวณเชิงเขา มีร้านค้าห้องน้ำสะอาดไว้บริการ หรือจะเป็นจุดกางเต็นท์ กองอำนวยกาก็วิวสวยไม่แพ้กัน
ที่อยู่ติดต่อและค่าบริการสถานที่
- ค่าบริการ: ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท ค่าธรรมเนียมผ่านเข้าอุทยานฯ รถยนต์ 30 บาท รถจักรยานยนต์ 20 บาท
- เวลาเปิดบริการ: 08.00 – 16.30 น.
- ที่อยู่: ต.ห้วยต้อน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
- โทรศัพท์: 093-0939193
2. ภูทอก
ที่เที่ยวธรรมชาติภาคอีสานอย่าง ภูทอก เป็นสถานที่ที่มีความสวยงามของทะเลหมอกสุดมหัศจรรย์ ทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาชมความงดงาม ซึ่งภูทอก ในภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว ประกอบด้วยภูเขา 2 ลูก คือ ภูทอกใหญ่ และภูทอกน้อย เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร หรือวัดภูทอกที่โด่งดัง และเป็นวัดที่ประชาชนและพระสงฆ์ร่วมกันสร้างบันไดไม้ระยะทางกว่า 1,600 ขั้น ไต่ริมหน้าผา ลัดเลาะไปรอบ ๆ ภูเขา ที่พาเราขึ้นไปชมทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองเชียงคาน และแม่น้ำโขงทั้งสองฝั่ง
จุดเที่ยวที่น่าสนใจ
- ตลาดเช้าเชียงคาน: หลังจากชื่นชมบรรยากาศสวยงามของภูทอกกันแล้ว จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจและไม่อยากให้พลาดเลยก็คือ ตลาดเช้าเชียงคานที่อากาศเย็นสบาย มีของอร่อยขึ้นชื่อวางขาย เช่น ปาท่องโก๋ยัดไส้ ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว ข้าวเปียกเส้น ข้าวจี่ญวน ไข่กระทะ รวมทั้งไฮไลต์สุดเด็ด คือ การใส่บาตรข้าวเหนียว
- ถนนคนเดินเชียงคาน: แลนด์มาร์คภาคอีสานที่ไม่ควรพลาด เดินชิลๆ บรรยากาศสบายๆ ช่วงเย็น ณ ถนนริมฝั่งโขง สัมผัสบรรยากาศแม่น้ำโขงแบบชิดใกล้ เหมาะกับการเดินเล่นหาของกินอร่อยๆ รวมทั้งช้อปสินค้าพื้นเมือง หรือจะนั่งรถสกายแลป เที่ยวชมกันแบบเพลินๆ ก็ได้
กิจกรรมที่แนะนำ
- ชมพระอาทิตย์และทะเลหมอกยามเช้า ว่ากันว่าใครมาเที่ยวเชียงคานแล้วไม่ได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกสวย ๆ ที่ภูทอก ถือว่ายังมาไม่ถึง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ที่มีทะเลหมอกปกคลุมเกือบทั้งภูเขา ชมแสงอาทิตย์ส่องกลางทะเลหมอก หรือจะชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นก็สวยงามไม่แพ้กัน ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติของภาคอีสานยอดนิยม ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ตาม
- นั่งรถชมเมือง บรรยากาศวัฒนธรรมความสวยงามของบ้านเรือนในเชียงคาน ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น แต่การได้นั่งรถท้องถิ่นของที่นี่ หรือรถสกายแลป ก็ต้องห้ามพลาดเช่นกัน จะนั่งดูอาคารบ้านเรือน ลัดเลาะริมโขงเพลินๆ หรือนั่งไปเที่ยวสกายวอล์คเชียงคานก็ได้
ที่อยู่ติดต่อและค่าบริการสถานที่
- ค่าบริการ: เข้าฟรี แต่มีค่ารถรับส่งขึ้นลง คนละ 25 บาท
- เวลาเปิดบริการ: 05.00 – 17.00 น.
- ที่อยู่: ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย
- โทรศัพท์: 042-325406-7
3. น้ำตกเจ็ดสี
น้ำตกเจ็ดสี เป็นที่เที่ยวธรรมชาติภาคอีสานที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จังหวัดบึงกาฬ เป็นน้ำตกที่เป็นผาน้ำขนาดใหญ่ มีแอ่งหิน ลานหินสวยๆ เรียงลดหลั่นกันลงมา เหมาะสำหรับท่องเที่ยวพักผ่อน เล่นน้ำ และปิคนิกเป็นอย่างมาก ความสวยงามของน้ำตกแบ่งออกเป็น 3 ชั้น น้ำตกชั้นแรก และน้ำตกชั้นที่สอง มีลักษณะเป็นลานหิน จุดที่สวยงามอยู่ที่ชั้น 3 ของน้ำตก ที่ไฮไลต์คือเมื่อน้ำกระทบแสงแดด จะสะท้อนออกมาเป็นสายรุ้ง จนเป็นที่มาของชื่อน้ำตกเจ็ดสีนั่นเอง หากอยากชื่นชมความงาม แนะนำให้มาท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝน จะเห็นสีสันของรุ้งที่ชัดเจน
จุดเที่ยวที่น่าสนใจ
- วัดป่าถ้ำบูชา: หน้าลานทางเข้าน้ำตกจะอยู่ติดกับวัดป่าถ้ำบูชา หรือวัดภูวัวน้ำตกเจ็ดสี ที่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม สัปปายะภาวนา โดยมีหลวงปู่ทองคำ กาญจนวัณโณ ที่เป็นศิษย์ของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นเจ้าอาวาสในปัจจุบัน ได้รับความเคารพนับถือจากคนบึงกาฬ รวมถึงนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
- น้ำตกตาดนกเขียน: น้ำตกขนาดเล็กที่อยู่ไม่ไกลจากน้ำตกเจ็ดสี มีจำนวน 3 ชั้น มีความสวยงามตามธรรมชาติ เหมาะจะท่องเที่ยวในฤดูฝน เป็นแลนด์มาร์คภาคอีสานที่ต้องมาเช็กอิน
กิจกรรมที่แนะนำ
- เล่นน้ำพักผ่อน ลักษณะของน้ำตกเจ็ดสี มีลักษณะเป็นแอ่งหิน น้ำใส ไหลเย็นสบาย เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ ในวันหยุดจะมีทั้งคนพื้นที่ และนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน หรือจะหาจุดเช็กอินถ่ายรูปสวยๆ หรือเลือกมุมเพื่อพักผ่อนสบายๆ ก็ได้
- ปฏิบัติธรรม วัดป่าถ้ำบูชา มีความสงบท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง ในแต่ละวันจะมีผู้คนมาสวดมนต์ นั่งสมาธิ เจริญจิตภาวนาไม่ขาดสาย ใครที่เป็นสายบุญไม่ควรพลาดกิจกรรมนี้
ที่อยู่ติดต่อและค่าบริการสถานที่
- ค่าบริการ: คนละ 20 บาท รถจักรยานยนต์ 20 บาท รถยนต์ 40 บาท
- เวลาเปิดบริการ: 08.00 – 17.00 น.
- ที่อยู่: บ้านต้อง อ.เซกา จ.บึงกาฬ
- โทรศัพท์: 081-2601845
4. ภูกระดึง
ใครที่อยากสัมผัสความงดงามของแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติภาคอีสาน อย่างภูกระดึงซึ่งถือว่าเป็นอุทยานแห่งชาติที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของไทย ที่มีความโดดเด่น และได้รับการยกย่องว่าเป็นแลนด์มาร์คภาคอีสาน ต้องไม่พลาดไปพิชิตยอดภูกระดึงกันสักครั้งในชีวิต ภูกระดึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อว่า เป็นจุดหมายปลายทางของผู้รักการผจญภัย นอกจากเป็นที่เที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมแล้ว ภูกระดึงยังเป็นสถานที่พิสูจน์รักแท้ชื่อดังอีกด้วย เพราะการเดินเท้าขึ้นยอดภูระยะทางกว่า 9 กิโลเมตร หากไม่รักกันจริงคงไปกันไม่ได้แน่นอน ภูกระดึงเป็นภูเขายอดตัด ที่มีลักษณะรูปหัวใจ จนมีคำเรียกขานว่าขุนเขารูปหัวใจ
จุดเที่ยวที่น่าสนใจ
- ซำแฮก: ระยะทางเดินขึ้นยอดภูกระดึง 5.5 กิโลเมตร จะต้องผ่านด่านทั้ง 10 ด่าน ที่เรียกว่า ซำ ช่วงซำเเฮกถือว่าเป็นไฮไลต์ เพราะมีลักษณะเป็นหินชันที่ต้องปีนป่าย เป็นช่วงที่เหนื่อยที่สุดของการเดิน แต่ก็มีร้านค้า ร้านอาหารอร่อย ไว้คอยเติมพลังก่อนจะลุยต่อ
- ผาหล่มสัก: หนึ่งในจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกสุดฮิต และมีความโรแมนติกที่สุดอีกแห่งหนึ่ง ระหว่างทางไปผาหล่มสักยังมีความสวยงามอีกมากมาย ตั้งแต่ผาหมากดูก ผานาน้อย ผาเหยียบเมฆ ทางเดินรายล้อมด้วยต้นสน ต้นกระดุม และทุ่งดอกไม้เล็ก ๆ ที่สวยงาม
กิจกรรมที่แนะนำ
- กางเต็นท์ หลังจากขึ้นไปถึงยอดภูกระดึงแล้ว ก็ต้องเดินต่อไปยังจุดบริการนักท่องเที่ยว หรือฐานวังกวาง ที่เป็นลานกางเต็นท์ อุทยานจะมีเต็นท์ให้บริการด้วย กิจกรรมยอดนิยมที่ลานกางเต็นท์ เช่น กินหมูกระทะ เล่นรอบกองไฟ นอนชมดาวในยามค่ำคืน ชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า
- ถ่ายรูปเช็กอินกับป้าย “ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง” ถือเป็นกิจกรรมไฮไลต์ ก่อนจะลงจากภูกระดึง ที่เป็นวาระแห่งชาติจริง ๆ ไม่ว่าใครก็ต้องถ่ายคู่กับป้ายนี้เพื่อเป็นที่ระลึก เป็นครั้งหนึ่งในความทรงจำ
ที่อยู่ติดต่อและค่าบริการสถานที่
- ค่าบริการ: ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท
- เวลาเปิดบริการ: 08.00 – 16.30 น. ให้ขึ้นเขาได้ไม่เกิน 14.00 น.
- ที่อยู่: บ้านศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย
- โทรศัพท์: 042-81083
5.จุดชมวิวสกายวอล์ค ผาตากเสื้อ
ที่นี่เป็นที่เที่ยวสุด Unseen มาแรงมากๆ เป็นแลนด์มาร์คภาคอีสานของจังหวัดหนองคาย ที่ทุกคนแทบจะรู้จักกันดีแล้ว นี่คือจุดชมวิวสกายวอล์ค ผาตากเสื้อ จุดชมวิวหลักล้าน พร้อมมุมถ่ายรูปเช็กอินสุดปัง เป็นสกายวอล์คที่แรกของเมืองไทย ทางเดินเป็นกระจกใส ยื่นออกไปจากหน้าผาประมาณ 6 เมตร สามารถเดินชมวิวได้ครั้งละประมาณ 20 คน สามารถมองเห็นความงามของธรรมชาติจังหวัดหนองคาย และวิวแม่น้ำโขงสุดตระการตา สิ่งที่ต้องระวังคือที่เที่ยวแบบสกายวอล์ค อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคกลัวความสูง หรือผู้ป่วยโรคลมชัก
จุดเที่ยวที่น่าสนใจ
- วัดผาตากเสื้อ: สถานที่ที่เหมาะสำหรับปฏิบัติธรรม มีความร่มรื่น สงบเงียบ ตั้งอยู่บนยอดเขาที่อุดมสมบูรณ์ มีอุโบสถ และบันไดทางขึ้นลงที่สวยงาม
- ชะง่อนผาตากเสื้อ: อีกหนึ่งจุดชมวิวเล็กๆ มีลักษณะเป็นหินปุ่มๆ ยื่นจากตัวหน้าผา ใครที่ชอบถ่ายภาพมุมสูงวิวแม่น้ำโขง รับรองว่าสวยงามเช่นกัน
กิจกรรมที่แนะนำ
- ชมสายหมอกที่ลอยอยู่เหนือแม่น้ำโขง: มาถึงที่เที่ยวธรรมชาติภาคอีสานอย่าง ผาตากเสื้อ ก็ต้องชื่นชมกับบรรยากาศอันสุดแสนจะโรแมนติก มองเห็นภูเขาและหมู่เมฆที่ล่องลอย ด้านล่างเป็นแม่น้ำโขงที่เป็นเส้นทางยาวสุดลูกหูลูกตา ถือว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีต่อใจมากๆ
- ทำบุญไหว้พระ พร้อมรับพรจากพระผู้ปฏิบัติธรรม: เมื่อมาถึงวัดของภาคอีสานทั้งที อย่าลืมแวะเข้าไปทำบุญขอพรจากพระ เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางกลับ
ที่อยู่ติดต่อและค่าบริการสถานที่
- ค่าบริการ: ไม่เสียค่าใช้จ่าย
- เวลาเปิดบริการ: 06.00 – 18.00 น.
- ที่อยู่: อ.สังคม จ.หนองคาย
- โทรศัพท์: 042-901013
6. ภูลมโล
หุบเขาสีชมพู แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติภาคอีสานที่ให้เราได้สัมผัสบรรยากาศลมหนาว ท่ามกลางความสวยงามโรแมนติกของดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย โดยเฉพาะช่วงต้นเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ที่ดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพู จะบานสะพรั่งสร้างความประทับใจไปทั้งหุบเขา ภูลมโลเป็นยอดเขาที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาดูความสวยงามของซากุระเมืองไทยกันอย่างมากมาย
จุดเที่ยวที่น่าสนใจ
- น้ำตกหมันแดง: เป็นน้ำตกสูง 32 ชั้น เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้เพียง 9 ชั้น มีความสวยงามอลังการ บริเวณใกล้ๆ ลำธาร น้ำตกหมันแดง ยังมีลานรอยเท้าไดโนเสาร์ ที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญ
- วัดป่าเย็นศิระธรรมประทีป: สถานที่ปฏิบัติธรรมที่ได้รับความเคารพจากผู้คนมากมาย ภายในวัดประดิษฐานพระพุทธชินสีห์องค์ใหญ่ สีทองอร่ามงดงาม
กิจกรรมที่แนะนำ
- นั่งรถนำเที่ยวของชุมชนเนินเพิ่ม เพื่อขึ้นเที่ยวชมภูลมโล ชมธรรมชาติสวยงามสองข้างทาง
- สามารถกางเต็นท์หรือนอกพักโฮมสเตย์ของชุมชนบ้านกกสะทอน เที่ยวชมวิถีชีวิตวัฒนธรรม การทำเกษตร ไร่ข้าวโพด ไร่กะหล่ำปลี ฯลฯ
ที่อยู่ติดต่อและค่าบริการสถานที่
- ค่าบริการ: 40 บาท เด็ก 20 บาท รถยนต์ 30 บาท
- เวลาเปิดบริการ: 05.30 น. – 19.00 น.
- ที่อยู่: ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย
- โทรศัพท์: 081-596-5977
7. เขื่อนลำปาว
เขื่อนดินขนาดใหญ่ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำท่วม และใช้ประโยชน์ทางการเกษตร แต่ด้วยบรรยากาศสุดชิล เหมาะกับการพักผ่อนชมวิว จึงทำให้เขื่อนลำปาวกลายเป็นหนึ่งในที่เที่ยวธรรมชาติภาคอีสาน ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว บริเวณสันเขื่อนลำปาว มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ ให้บริการ ใครกำลังหาสถานที่แฮงค์เอาท์รับลมธรรมชาติ มีกิจกรรมหลากหลาย เช่น ปั่นจักรยาน นั่งบานาน่าโบ๊ท รับรองเลยว่าทั้งสวยงามเพลิดเพลิน เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบครอบครัว
จุดเที่ยวที่น่าสนใจ
- หาดดอกเกดทะเลน้ำจืด: สุด Unseen อยู่บริเวณริมฝั่งเขื่อนลำปาว เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อน มีกิจกรรมให้เล่นมากมาย ทั้งเล่นน้ำ เจ็ทสกี บานาน่าโบ๊ท เตียงผ้าใบนอนเล่น เป็นต้น
- สันเขื่อนลำปาว: จุดพักผ่อนชมวิวรับลมเย็นๆ มองวิวธรรมชาติแบบสุดสายตา มีร้านค้าร้านอาหารให้บริการ ปลาน้ำจืดจากเขื่อนลำปาว ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
กิจกรรมที่แนะนำ
- สนุกกับการเล่นน้ำ นอนอาบแดดบนเปลผ้าใบริมชายหาด กิจกรรมทางน้ำมากมาย แช่น้ำคลายร้อน นอนแพห่วงยาง หรือกิจกรรมสุดท้าทายอย่างนั่งบานาน่าโบ๊ท หรือสปีดโบ๊ท
- บริเวณเขื่อนลำปาว มีจุดถ่ายรูปเช็กอินสวยๆ หลายจุดด้วยกัน สามารถไปเที่ยวชมศูนย์วิจัยพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมถึงการเลี้ยงปลาในกระชังของชาวบ้าน
ที่อยู่ติดต่อและค่าบริการสถานที่
- ค่าบริการ: ไม่เสียค่าบริการ
- เวลาเปิดบริกา: 07.00 น. – 18.00 น.
- ที่อยู่: ต.ลำคลอง อ.เมืองจ.กาฬสินธุ์
- โทรศัพท์: 043-813-873
8. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติภาคอีสาน สุด Unseen ของจังหวัดอุบลราชธานี ไฮไลต์ของผาแต้มคือแสงแรกแห่งสยาม เพราะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นก่อนที่ใดๆ ในประเทศไทย นอกจากนั้น ผาแต้มยังเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ และผืนป่าธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยว จุดชมวิวแม่น้ำโขง และทิวทัศน์ฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นอกจากธรรมชาติแล้ว ที่ผาแต้มยังมีภาพเขียนประวัติศาสตร์ริมหน้าผาที่ยาวที่สุดในประเทศ มีอายุมากกว่า 3,000 ปี
จุดเที่ยวที่น่าสนใจ
- น้ำตกแสงจันทร์ หรือน้ำตกลงรู: อีกหนึ่งไฮไลต์ที่มีหนึ่งเดียวในเมืองไทย สายน้ำจากน้ำตกจะไหลผ่านลงรูหิน โปรยละอองลงมาเป็นสีขาวนวลคล้ายแสงจันทร์ ใครได้มาเห็นรับรองว่าประทับใจไม่รู้ลืม
- ผาชะนะได: หน้าผาที่อยู่บนที่สูงท่ามกลางป่าสนสองใบ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นเป็นที่แรกของเมืองไทย นอกจากแสงแรกแล้ว ช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่ผาชะนะได ยังเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามไม่แพ้ที่ใด
กิจกรรมที่แนะนำ
- เดินสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เดินป่าพิชิตยอดผาชะนะได
- กางเต็นท์ทำกิจกรรมรอบกองไฟในเวลาค่ำคืน พร้อมรอชมแสงแรกแห่งสยามที่สวยงามในยามเช้า
ที่อยู่ติดต่อและค่าบริการสถานที่
- ค่าบริการ: เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท ชาวต่างประเทศ เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 200 บาท
- เวลาเปิดบริการ: 06.00 น. – 18.00 น.
- ที่อยู่: ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี
- โทรศัพท์: 045-249-780
9. อุทยานแห่งชาติภูเรือ
ภูเรือ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติภาคอีสานที่ได้ชื่อว่าหนาวสุดในแดนสยาม อุทยานแห่งชาติภูเรือเป็นป่าทึบสีเขียว มีทิวเขาสูงสลับซับซ้อน มีรูปร่างและสีสันสวยงามแปลกตา มองไปเห็นเหมือนลำเรือใหญ่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ช่วงฤดูหนาวอากาศจะหนาวเย็นมาก เป็นจุดชม “แม่คะนิ้ง” ที่มีชื่อมากที่สุด ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยวกันจำนวนมาก เพื่อมาถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงเช้า และชมทุ่งทะเลหมอกที่สวยงามอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
จุดเที่ยวที่น่าสนใจ
- ยอดภูเรือ: จุดสูงสุดของอุทยานแห่งชาติภูเรือ มีความสูงประมาณ 1,365 เมตร เป็นหน้าผาสูงชัน ปกคลุมด้วยป่าสนเขาสลับกับลานหินธรรมชาติ สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขง ที่กั้นพรมแดนไทย-ลาว
- สวนหินพาลี: เป็นลานหินขนาดใหญ่ มีก้อนหินรูปร่างๆ แปลกตา บางก้อนคล้ายเสาหิน บางก้อนคล้ายดอกเห็ด รอบบริเวณรายล้อมไปด้วยพืชหลากหลาย สวนดอกไม้ดอกเล็กๆ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ และอยู่ไม่ไกลจากจุดกางเต็นท์
กิจกรรมที่แนะนำ
- เส้นทางศึกษาธรรมชาติเฉลิมพระเกียรติ ผาโหล่นน้อย-ยอดภูเรือ แหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศธรรมชาติ ที่ได้รับความนิยมจากนักเดินป่ามากมาย
- ภูเรืออากาศหนาวเย็นสบาย มีลานกางเต็นท์หลายจุด บรรยากาศลานสนสวยงาม เหมาะสำหรับพักผ่อน นอนรับลมหนาว ดูดาวสวยๆ หรือทำกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกันกับคนในครอบครัว
ที่อยู่ติดต่อและค่าบริการสถานที่
- ค่าบริการ: เด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 40 บาท รถยนต์ 30 บาท
- เวลาเปิดบริการ: 05.00 น. – 20.00 น.
- ที่อยู่: ต.หนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย
- โทรศัพท์: 042-810-965
10. อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก
อุทยานแห่งชาติผาเหล็ก แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติภาคอีสาน ที่มีทั้งธรรมชาติอันสวยงามและประวัติศาสตร์เก่าแก่ ภูผาเหล็กเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูพาน มีภูอ่างสอเป็นยอดที่สูงสุด มีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามไม่แพ้ที่ใดเช่นกัน นอกจากนั้น ที่นี่ยังเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณ มีภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ ที่ผาผักหวาน เป็นภาพเขียนคล้ายผู้หญิงยืนเรียงแถว ระบายด้วยสีแดงทึบบนผนังหิน อายุกว่า 3,600 ปี
จุดเที่ยวที่น่าสนใจ
- วัดถ้ำพวงหรือวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม: ศาสนสถานที่สร้างอยู่บนยอดภูผาเหล็ก ที่มีสังเวชนียสถานจำลองจากอินเดีย พระเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ ประดิษฐานพระมุจรินทร์องค์ใหญ่ และพิพิธภัณฑ์อัฐบริขารของพระอาจารย์วัน อุตตโม
- อ่างสอ: ยอดภูที่สูงที่สุดในอุทยานภูผาเหล็ก อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เป็นสถานที่กางเต็นท์เพื่อชมความงามจากธรรมชาติ
กิจกรรมที่แนะนำ
- รักษาศีลปฏิบัติธรรม ศึกษาหลักธรรมคำสอนน้อมถวายเป็นพุทธบูชา เพื่อสิริมงคลต่อตัวเองและครอบครัว ได้ที่วัดถ้ำพวง
- กางเต็นท์นอนรับลมหนาว ชมพระอาทิตย์ตก ส่องดาวยามค่ำคืน ตื่นเช้าไปเดินป่าเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเส้นทางสายดอกไม้
ที่อยู่ติดต่อและค่าบริการสถานที่
- ค่าบริการ: เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท ชาวต่างชาติ เด็ก 50 บาท ผู้ใหญ่ 100 บาท
- เวลาเปิดบริการ: 08.00 น. – 16.30 น.
- ที่อยู่: ต.ปทุมวาปี อ.ส่องดาว จ.สกลนคร
- โทรศัพท์: 042-707-513
สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติภาคอีสานแต่ละแห่ง ล้วนมีความสวยงาม หลาย ๆ สถานที่ถูกยกให้เป็น Unseen ของเมืองไทย การได้ท่องเที่ยวธรรมชาติภาคอีสาน ได้เรียนรู้วัฒนธรรมประเพณี วิถีชุมชน และธรรมชาติอันงดงาม โดยเฉพาะ 10 ที่เที่ยวที่เรานำมาแนะนำกันนั้น หากใครได้เป็นเยือนสักครั้ง รับรองเลยว่าจะสร้างความทรงจำ และความประทับใจได้ไม่รู้ลืมแน่นอน