11 ประเทศที่สวยที่สุดในโลก ที่เที่ยวตระการตา ควรลองไปสักครั้งในชีวิต
ทุกประเทศต่างก็มีเรื่องราว เอกลักษณ์ วัฒนธรรมที่ต่างกันอย่างงดงาม ยิ่งเมื่อเทียบความน่าหลงใหลของแต่ละทวีปที่อยู่คนละโซนกัน จะยิ่งเห็นความต่างกันอย่างสุดขั้ว แต่กลับได้พบเห็นความสวยงามในทุกที่ มาดู 11 ประเทศที่สวยที่สุดในโลก ที่มีความงดงามในหลากหลายด้าน แตกต่างกันไปตามภูมิประเทศ และวัฒนธรรม ถ้าพร้อมแล้ว ไปท่องเที่ยวพร้อมกันได้เลยในบทความนี้
1. ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น ประเทศที่หลอมรวมความหลากหลายในด้านความเรียบง่ายของวัฒนธรรม วิถีชีวิตที่โดดเด่นไม่เหมือนใครในโลก ในแง่ของความเรียบร้อย มีมารยาท ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่น่าเที่ยวมาก เสพได้หลายมุมมอง ด้วยญี่ปุ่นเป็นประเทศหมู่เกาะ รายล้อมมากถึง 6,800 เกาะ โดยเรียงยาวจากตะวันตกเฉียงเหนือ ในมหาสมุทรแปซิฟิก อีกทั้งตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของโลก ทำให้ญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นดินแดนอาทิตย์อุทัย
หากไปญี่ปุ่นที่แรกที่ต้องไป ให้ได้ก็คือ ฟุกุโอกะ เดินขมดอกไม้สวยท่ามอุโมงค์ดอกไม้ที่เบ่งบานสะพรั่งสวยงาม มีมากถึง 150 ต้น หรือจะไปเที่ยว Nachi Falls วากายามะ น้ำตกที่สูงที่สุด และใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น วิวทิวทัศน์รอบด้านสวยสะดุดตา รับรองประทับใจไม่มีลืม ญี่ปุ่นสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นจะสวยเป็นพิเศษ
2. ฮ่องกง
ใครที่เป็นสายชอปปิง ท่องสวนสนุก ไหว้พระ หรือจะเป็นที่เที่ยวเชิงธรรมชาติ ต้องเดินทางไปเที่ยวฮ่องกงให้ได้เลย ฮ่องกงเป็นเมืองที่เจริญไปด้วยตึกระฟ้าสูง ตัวอาคารมีการผสานระหว่างตะวันออกกับตะวันตกเข้าด้วยกัน เรียกว่าจะได้เห็นวัฒนธรรมที่แปลกตาผ่านความเจริญได้ดี
สถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยียนฮ่องกงก็คือ วิคตอเรีย พีค (Victoria Peak) เป็นจุดชมวิวบนยอดเขาที่สูงที่สุดในฮ่องกง สามารถมองเห็นวิว อ่าววิคตอเรีย และเมืองนี้ได้แบบเต็มแม็กซ์ รับรองว่าคุณจะตื่นตาตื่นใจทุกอณู รถรางที่ใช้เป็นรถเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 120 ปีแล้วด้วย แบบนี้ยิ่งทวีคูณความตื่นเต้นไปอีก รู้อย่างงี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว
3. นิวซีแลนด์
นิวซีแลนด์ หนึ่งในประเทศที่อยู่ในทวีปออสเตรเลียที่มีความโดดเด่นทั้งด้านภูมิศาสตร์ และวิถีชีวิตของผู้คนตั้งแต่อดีต ที่พัฒนาตามกาลเวลาถึงปัจจุบัน
เมื่อไปนิวซีแลนด์แล้วต้องไปเที่ยวที่ Milford Sound เป็นที่เที่ยวที่ดังแห่งหนึ่ง โดยทิวทัศน์ของ ฟยอร์ด หรือเรียกอย่างเข้าใจว่าเป็นอ่าวเล็กๆ ที่เกิดจากน้ำทะเลกัดเซาะจนเกิดเป็นผาหินขนาดใหญ่ และมีน้ำตกสีขาวสะอาดเป็นฉากหลังแสนงดงามดังภาพวาด
4. อิตาลี
อิตาลีถูกจัดเป็นประเทศที่สวยที่สุดในโลกเสมอมา ทั้งในแง่ของศิลปะที่เป็นต้นกำเนิดของศิลปะไปทั่วโลก วัฒนธรรมการแต่งกาย อาหารที่โด่งดังไปทั่วโลก และความงดงามของภูมิประเทศที่สวยงามสะกดใจทุกคนที่ได้มาเยือน
หากเที่ยวอิตาลี คุณต้องไม่พลาดกับการไปเยือน กรุงโรม เมื่องนี้มีเรื่องราวที่น่ารู้มากมาย พ่วงด้วยตำแหน่งของการเป็นเมืองหลวงของอิตาลี เมืองโรมจัดเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่กว่า 2,700 ปี มาแล้ว ซึ่งถือว่าเก่าแก่มาก และควรค่าแก่การไปเรียนรู้และรู้จักวัฒนธรรมตลอดกาลเวลาที่ผ่านมา รากฐานศิลปะของศิลปะกรุงโรมถือเป็นรากฐานศิลปะตะวันตกเลยทีเดียว มีสถานที่สำคัญก้องโลกหลายที่ เช่น โคลอสเซียม (Colosseum) น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) มหาวิหารแพนธีออน (Pantheon) เป็นต้น
5. แคนาดา
แคนาดาเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่าน่าย้ายไปอยู่ประเทศนี้ ด้วยวิถีชีวิตของผู้คนที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ไม่ผสมผสานเข้ากันอย่างลงตัว และอยู่ร่วมตัวอย่างสันติ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ถึงแม้จะประเทศที่มีอากาศหนาวมาก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา ป่าไม้ และแม่น้ำ แต่สิ่งเหล่านี้สามารถใช้เวลาเพื่อปรับตัวได้ แต่เสน่ห์ของประเทศนี้สิเป็นเอกลักษณ์ที่หาไม่ได้ง่าย ฉะนั้นการมาเที่ยวแคนาดาในคอนเซ็ปต์ ประเทศที่สวยที่สุดในโลก ก็ดูจะเป็นการเที่ยวสมชื่อ
หากไปเที่ยวประเทศนี้ควรไป เทือกเขาร็อกกี้ (Rocky Mountains) เป็นเทือกเขาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแบมฟ์ และอุทยานแห่งชาติแจสเปอร์ เมื่อไปถึงคุณจะเห็นเทือกเขาที่ยืนสง่าเป็นแนวยาวชวนตื่นเต้นสุดๆ มีป่าสนห้อมล้อมทะเลสามสีเอเมอรัลวางอยู่ตรงกลาง จัดเป็นภาพที่สวยเกินบรรยาย ที่นี่มีกิจกรรมมากมายให้ทำ ทั้งการเดินป่า พายเรือแคนู หรือนั่งกระเช้าไฟฟ้าชมวิวก็ดีไม่น้อย หรือหากใครไปเที่ยวแนววัฒนธรรมก็ต้องไป ควิเบก เป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมมีเสน่ห์ของความเป็นฝรั่งเศสมาก ตึกรามบ้านช่องสวย สะอาด น่าเดิน รับรองว่ามีเรื่องเล่าให้คนสนิทฟังได้ไม่รู้จบ
6. ไอซ์แลนด์
ประเทศที่เป็นเมืองในฝันของใครหลายคนที่อยากลองไปเยือนให้ได้สักครั้ง เป็นประเทศที่ได้ใจนักผจญภัยสายแอดเวนเจอร์ คนรักธรรมชาติ และผู้ที่หลงใหลของแสงเหนือ ไอซ์แลนด์ ดินแดนที่เรื่องเล่าที่น่าสนใจผ่านธรรมชาติที่สวยงามจับใจราวหลุดเข้าไปในเทพนิยาย
หากได้ไปแล้วต้องลองไปเที่ยวที่ เรคยาวิก (Reykjavik) เป็นเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ ที่มีขนาดเล็ก และเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ ที่นี่เป็นเมืองหลวงที่อยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด ทั้งยังเป็นเมืองที่ผสานความคลาสสิก และศิลปะสมัยใหม่เข้ากันได้ดี มีไฮไลต์เป็นโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) สร้างด้วยสถาปัตย์แบบเอ็กซ์เพรสชันนิสต์ ที่ถือว่าหาชมได้ยากมาก รู้อย่างนี้ต้องลองไปให้ได้สักครั้งในชีวิต
7. ฝรั่งเศส
มาต่อกันที่ฝรั่งเศส เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ก้องโลกมาอย่างยาวนาน และปัจจุบันนี้ก็ได้ทิ้งร่องรอยประวัติศาสตร์ที่สวยงามและน่าหลงใหล ให้คนจากทุกทิศมุมโลกได้สัมผัสเรื่องราว และความงามเหล่านั้นไม่ขาดสาย ประวัติที่น่าสนใจของฝรั่งเศสทำให้ฝรั่งเศสได้กลายเป็นประเทศที่มีที่เที่ยวหลากรูปแบบให้รู้จัก ทั้งโบราณสถาน ย่านชอปปิง ปราสาท และอื่นๆ อีกมากมาย
หอไอเฟล ที่เที่ยวที่เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยยังไงก็รู้จัก เป็นหอที่ไว้เป็นชัยภูมิสสำคัญที่ทำออกมาได้สวยสะกดใจ สามารถขึ้นไปดูวิวให้เห็นวิวทั้งเมืองปารีสได้ มีด้านหน้าเป็นสวน ส่วนข้างหลังเป็นฝั่งแม่น้ำแซน หรือจะไปเที่ยวมหาวิหารมงแซ็งมิเชล ก็จัดเป็นที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การไปอย่างมาก เป็นวิหารที่ตั้งอยู่ในแคว้นนอร์มังดี ศูนย์รวมความศรัทธาในคริสต์ศาสนาในช่วงศตวรรษที่ 8 เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่บนเกาะขนาดเล็ก มีความสะดวกด้วยถนนที่เชื่อมระหว่างเกาะ และแผ่นดิน ต่อปีมีคนมาเที่ยวหลักล้านเสมอ และยังเป็นปราสาทหนึ่งในต้นแบบเค้าโครงของปราสาทของดิสนีย์
8. อังกฤษ
อังกฤษติดท็อปประเทศที่สวยที่สุดในโลกมาแต่ไหนแต่ไร อดีตสวยยังไง ปัจจุบันและอนาคตอีกหลายปีก็ยังสวยเหมือนสวยเดิม ไม่ได้สวยเฉพาะทางธรรมชาติ แต่ในแง่วัฒนธรรม การเป็นอยู่ของผู้คน จัดเป็นเสน่ห์ที่คนทั้งโลกหลงใหลกันทั้งนั้น การเดินทางไปเที่ยวอังกฤษคุณจะมองเห็นอะไรหลายอย่างที่สามารถเปิดโลกทัศน์ให้กับคุณได้ทุกนาทีที่ได้เที่ยวชม
แนะนำให้ไป เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ (Westminster Abbey) เป็นอารามหลวงเก่าแก่ที่อายุมากถึงพันปี โดยตั้งอยู่ทางตะวันตกของตึกรัฐสภาเวสต์มินสเตอร์ อาคารปัจจุบันที่ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นนั้นสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1245 มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค มีลวดลายที่งดงามวิจิตร สมความยิ่งใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองพพระราชพิธีราชาภิเษกถึง 38 ครั้ง สมรส 26 ครั้ง และฝังร่างของบุคคลสำคัญในอังกฤษหลายท่าน ถือเป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การไปเยือน
9. ชิลี
ชิลี จัดเป็นประเทศที่มีความยาวมากที่สุดในโลก มีความยาวตลอดชายฝั่งของมหาสมุทรแปซิฟิกกว่า 4,300 กิโลเมตร ทำให้ชิลีมีความกว้างเพียง 130 กิโลเมตร เท่านั้น แต่ลักษณะภูมิศาสตร์ไม่ได้ลดความสวยงามของประเทศชิลีลงไปสักนิด เพราะความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ความหลากหลายของภูมิประเทศที่สวยสะกดใจได้ทุกที่
หนึ่งที่เที่ยวที่ไม่อยากให้พลาดเลยเมื่อไปชิลี คือ โมอาย เกาะอีสเตอร์ (Moai, Easter Island) หากพูดชิลี ต้องมีโมอายพ่วงด้วยถึงจะดูสมบูรณ์แบบและรู้จักชิลีจริง โมอาย เป็นรูปปั้นที่ถูกวางอยู่ริมทะเลเกาะอีสเตอร์มานาน แต่กลับไม่รู้ปริศนาว่าใครเป็นปั้นขึ้นมา ทำให้นอกจากดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว ก็ยังเป็นที่สนใจของคนที่สนใจโบราณคดี ประวัติศาสตร์ ยิ่งทวีคูณจำนวนผู้คนกันมากขึ้น ไปแล้วไปชมความแปลกและยิ่งใหญ่ของโมอายมากกว่า 600 ตัว และถ่ายรูปคู่กับโมอายไปเลย
10. เปรู
มาที่เปรูกันบ้าง หลายคนอาจไม่ได้รู้จักเปรูกันดีมากนัก หากคุณได้ลองไปเปรูสักครั้งในชีวิต การได้ใส่เปรูเข้าไปในลิสต์ประเทศที่สวยที่สุดในโลก จะไม่มีอะไรที่ชวนให้คุณเอะใจเลย เป็นหนึ่งประเทศที่อบอวลไปด้วยความลึกลับน่าสนใจ มีวัฒนธรรมโบราณเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร เปรู มีชื่อเรียกว่าเป็น ดินแดนแห่งอินคา เมื่อนานมาแล้วเคยเป็นที่ตั้งของจักรวรรดิอินคาที่ยิ่งใหญ่ แต่ต้องล่มสลายจากสเปนเข้ามารุกราน ทิ้งเพียงร่องรอยความยิ่งใหญ่ที่ยังคงสภาพความสวยงาม แปลกพิศวง และตื่นเต้นไม่หาย
สถานที่ท่องเที่ยวเมื่อไปเปรูแล้วพลาดไม่ได้เลย นั่นคือ มาชูปิกชู (Machu Picchu) เป็นชื่อเชื่อว่าคุ้นหูเป็นอย่างดี เพราะเป็นหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ทางโบราณคดีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก โดยตั้งอยู่บนเทือกเขาแอนดีสที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,100 เมตร มาชูปิกชูสร้างเพื่อเป็นป้อมปราการกันข้าศึก แต่เมื่ออาณาจักรล่มสลาย จึงได้กลายเป็นบ้านพักราชวงศ์อินคา ที่มีที่ราบเป็นขั้นบันไดไว้ทำการเกษตรและชลประทาน เมื่อคุณไปเที่ยวได้ไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ได้อย่างตื่นตาตื่นใจ
11. เคนยา
ปิดท้ายประเทศที่สวยที่สุดในโลกด้วยประเทศเคนยา ซึ่งเคนยาชื่อนี้เมื่อนึกถึงแล้ว เชื่อว่าคนไทยหลายคนไม่ค่อยได้เดินทางไปเที่ยวกัน แต่เชื่อเถอะว่าการที่เคนยาถูกอยู่ในลิสต์ประเทศที่สวยที่สุดในโลกนั้น ควรค่าอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติที่สวย มีลักษณะภูมิประเทศเป็นแบบเฉพาะตัว วิถีชีวิตผู้คนที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงศิลปะที่น่าสนใจ
หากมีโอกาสไปเคนยาอยากแนะนำให้ไป ท่องซาฟารี ไปท่องทุ่งหญ้าสะวันนาที่กว้างไพศาล เปิดการผจญภัยที่ชวนน่าตื่นเต้น ด้วยการไปนั่งรถออกไปส่องดูสัตว์ ไปดูราชาแห่งซาฟารี 5 อย่าง คือ ช้างป่าแอฟริกัน เสือดาว สิงโต แรด และควายปาแอฟริกัน รับรองว้าวตลอดการนั่งรถชมสัตว์แน่
สรุป
สิ่งที่ทำให้ประเทศที่สวยที่สุดในโลก ไม่เพียงเฉพาะความงามด้านใดด้านหนึ่ง แต่ต้องเป็นความงามที่หล่อหลอมทั้งทางธรรมชาติ ศิลปะ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรมการใช้ชีวิตของผู้คนแต่ละประเทศ ที่ขับเสน่ห์เฉพาะตัวออกมาให้คนทั้งโลกได้เห็นว่าเป็นสิ่งที่งดงามทั้งทางกายภาพและจิตใจ ซึ่งแต่ละประเทศมีความสวยงามที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนว่าชอบความสวยงามในแบบไหน สามารถมองได้หลายมุมมอง
หากใครชอบความงามสไตล์ยุโรป แต่ไม่สะดวกหรือไม่ได้มีเวลานานที่จะเดินทางไปประเทศฝั่งยุโรป งั้นลองเดินทางไปที่ Rancho Charnvee เพราะที่นี่เป็นที่พักในไทยที่ออกแบบให้มีกลิ่นอายแบบยุโรปมาก รับรองว่าการเดินทางมาพักผ่อนที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงความเป็นยุโรปง่ายๆ ใกล้ๆ โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงต่างประเทศเลย อีกทั้งยังมีกิจกรรมสนุกๆ มากมายหลากหลายอย่างให้ได้ทำอีกด้วย รับรองใครมาพักจะได้รับความประทับใจกลับไปเสมอ