10 ที่เที่ยวด่านขุนทด สนุกกับกิจกรรม เพลิดเพลินกับบรรยากาศ

วันหยุดหรือวันสุดสัปดาห์มาถึงทั้งที อยากจะหาที่เที่ยวสนุกๆ นอกกรุงเทพฯ ให้ได้เพลิดเพลินและผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ ต้องลองมาเที่ยวที่ด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา เพราะนอกจากจะมีบรรยากาศที่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจแล้ว ยังมีแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ วัด หรือแหล่งเรียนรู้ ดังนั้นบทความนี้จึงจะมาแนะนำ 10 สถานที่เที่ยวด่านขุนทด รวมประสบการณ์ความสนุกที่หาได้ง่ายๆ กันได้เลย

1. พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน

พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน เป็น 1 ใน 8 พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินของโลก และเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ภายในจัดแสดง 3 ส่วน ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน พิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ และพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ โดยพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินจะเน้นไม้ลักษณะเด่นพิเศษ 3 อย่างที่มีอายุกว่า 800,000 ปี คือ ไม้กลายเป็นหินอัญมณี ไม้กลายเป็นหินวงศ์ปาล์ม และไม้กลายเป็นหินหลากหลายอายุ ส่วนพิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์จะจัดแสดงซากดึกดำบรรพ์ของช้างและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมต่างๆ โดยจำลองจากแหล่งที่พบฟอสซิลช้างและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมภายในจังหวัดนครราชสีมา ส่วนการจัดแสดงสุดท้ายคือพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ซึ่งเล่าประวัติความเป็นมาตั้งแต่การถือกำเนิดไปจนถึงการสูญพันธุ์ ทั้งยังจัดแสดงกะโหลกและโครงกระดูกจำลองของไดโนเสาร์ชนิดต่างๆ รวมถึงหุ่นจำลองการเคลื่อนไหวของไดโนเสาร์อีกด้วย

• ที่ตั้ง : 184 ม.7 ถ.มิตรภาพ – หนองปลิง บ้านโกรกเดือนห้า ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา 30000 มีจุดสังเกตคืออยู่ติดกับสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 5
• เวลาให้บริการ : วันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 09.00-15.30 น.
• เงื่อนไขการเข้าชมสถานที่ : ค่าธรรมเนียมเข้าชม ผู้มใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท สำหรับการมาเป็นหมู่คณะรับจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน
• ข้อมูลติดต่อ : โทร. 044-370739, 080-1651070 เว็บไซต์ เพจFacebook

2. วิหารเทพวิทยาคม วัดบ้านไร่

วิหารเทพวิทยาคม วัดบ้านไร่ อุทยานธรรมกลางบึงน้ำขนาดใหญ่ ถือเป็นที่เที่ยวของด่านขุดทดเชิงวัฒนธรรม ศาสนา และศิลปะ ซึ่งก่อสร้างขึ้นตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือพระเทพวิทยาคม พระอาจารย์เกจิชื่อดังของภาคอีสาน โดยวิหารเทพวิทยาคมมีความโดดเด่นทางด้านศิลปกรรมหลากหลายแขนง ทั้งสถาปัตยกรรมที่ออกแบบเป็นอาคารทรงกลม 4 ชั้น ตกแต่งด้วยเซรามิกโมเสกมากกว่า 20 ล้านชิ้น หรืองานจิตรกรรมร่วมสมัยที่ถ่ายทอดพุทธประวัติ พระธรรมคำสอนจากพระไตรปิฎก และเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนาในแต่ละชั้นของอาคารอย่างสวยงาม รวมถึงชั้นดาดฟ้าที่ประดิษฐานปฏิมากรรมพระพุทธรูปปางลีลา และรูปหล่อปิดทองของหลวงพ่อคูณ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มาสักการะบูชาพร้อมชมบรรยากาศโดยรอบของวัดบ้านไร่จากมุมสูง ซึ่งยังมีประติมากรรมเทพพญาสัตว์ต่างๆ อีกมากมายให้ได้ชม เช่น พญานาค สะพานพญานาค เทพจำแลงสุนัข 3 หัวเฝ้าประตูนรก ประตูท้าวจตุโลกบาล พญาแร้ง และช้างเอราวัณ เป็นต้น

• ที่ตั้ง : วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุดทด จ.นครราชสีมา 30210 สามารถเดินทางมาตาม ถ.มิตรภาพ ก่อนเข้าหลักกิโลเมตร 237 แยกซ้ายไป อ.ขามทะเลสอ บ้านหนองสรวง ตรงเข้าสู่ อ.ด่านขุดทด ประมาณ 60 กม. ถึง รพ.ด่านขุนทด ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2217 เดินทางอีก 11 กก. ก็จะถึงวัดบ้านไร่
• เวลาให้บริการ : 8.30 – 17.00 น.
• เงื่อนไขการเข้าชมสถานที่ : เปิดเข้าชมฟรีทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ สำหรับภาครัฐและเอกชนที่สนใจเข้าชม ให้ส่งหนังสือแจ้งความจำนงและจุดประสงค์การเข้าชมล่วงหน้า 1 สัปดาห์
• ข้อมูลติดต่อ : โทร. 082-8949109 เว็บไซต์ เพจFacebook

3. จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม

จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรขนาดใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมา เป็นฟาร์มเกษตรเชิงวัฒนธรรมที่จัดระบบระเบียบเป็นกลุ่ม ซึ่งนอกจากจะได้ชื่นชมกับความสวยงามของธรรมชาติ ยังได้ความรู้เชิงเกษตรกรรม พร้อมช้อปปิ้งสินค้าได้อีกด้วย โดยมักจะจัดงานต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นประจำทุกปีในเดือนธันวาคม – ต้นเดือนมกราคมของปีหน้า และแต่ละปีมีการเปลี่ยนแปลงธีมงานให้ไม่ซ้ำกัน ซึ่งภายในฟาร์มจะมีจุดท่องเที่ยวและกิจกรรมสนุกๆ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวมากมาย เช่น งานจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ในปี 2565 มาในธีม “มาโฮมมาต้อน สะออนดอกไม้” มีจุดเช็คอินให้ถ่ายภาพเก็บบรรยากาศและร่วมกิจกรรมถึง 9 จุดกันเลยทีเดียว รับรองว่าทุกคนที่มาเยือนทุ่งดอกไม้หลากสีสันของจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม จะต้องประทับใจจนไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน

• ที่ตั้ง : 2072 ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา 30150
• เวลาให้บริการ : เปิดให้เข้าชมช่วง ธ.ค. – ม.ค. เวลา 9.00 – 17.00 น.
• เงื่อนไขการเข้าชมสถานที่ : บัตรเข้าชมวันธรรมดาและวันเสาร์ – อาทิตย์ มีราคาที่ต่างกัน
• ข้อมูลติดต่อ : โทร. 02-762-2566 อีเมล Farmtour@Jimthompson.Com เพจFacebook

4. ฟาร์มโชคชัย

มาถึงโคราชหลายคนคงนึกถึงฟาร์มโชคชัย ซึ่งนอกจากจะเป็นฟาร์มโคนมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบครบวงจร มีทั้งที่พักใกล้ชิดธรรมชาติ แหล่งเรียนรู้ทดลองการเป็นโคบาล รวมถึงมีกิจกรรมสนุกๆ ต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นขี่ม้าสวมบทคาวบอย ปั่นจักรยานทัวร์รอบฟาร์ม ป้อนอาหารแกะ แวะชมโรงงานผลิตนม ผลิตไอศกรีม และการสาธิตการรีดนมวัว นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์เครื่องจักรและรถใช้งานในช่วงบุกเบิกฟาร์มโชคชัย ได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาก่อนจะเป็นฟาร์มโชคชัยในวันนี้ หากใครเที่ยวชมจนหิวก็แวะทานสเต็กรสเลิศได้ที่โชคชัยสเต็กเฮ้าส์ ภัตตาคารสเต็กเฮ้าส์ที่อยู่คู่คนไทยกว่า 50 ปี และก่อนจากไปแวะซื้อของฝากหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น นมอัดเม็ด ไอศกรีม โยเกิร์ต ทอฟฟี่นม นมพาสเจอร์ไรซ์ เป็นต้น ซึ่งมาจากการคัดสรรวัตถุดิบที่ผลิตอย่างพิถีพิถันภายในฟาร์ม เรียกได้ว่าฟาร์มโชคชัยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ครบจบในที่เดียว

• ที่ตั้ง : ฟาร์มโชคชัย 169 ม.2 ถ.มิตรภาพ ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30130 ฟาร์มโชคชัยตั้งอยู่หลักกิโลเมตร 159 – 160 ริม ถ.มิตรภาพ ห่างจาก อ.ปากช่อง 14 กม. ห่างจากตัว จ.นครราชสีมา 95 กม. เดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
• เวลาให้บริการ : เปิดทุกวัน 8.00 – 17.30 น. ส่วนการทัวร์ฟาร์มมีเวลาคือ วันอังคาร – ศุกร์ เปิดเข้าชมรอบ 10.00 น. และ 14.00 น. วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดให้ชมรอบเช้า 10.00 / 11.00 น. รอบบ่าย 13.00 / 14.00 น.
• เงื่อนไขการเข้าชมสถานที่ : ค่าธรรมเนียมเข้าชม ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท
• ข้อมูลติดต่อ : โทร. 061-394-5890 อีเมล info@farmchokchai.com เว็บไซต์ เพจFacebook

5. น้ำตกวังคาวบอย

ใกล้ๆ ด่านขุนทดยังมีที่เที่ยวอีกแห่ง คือ น้ำตกวังคาวบอย เมื่อไปถึงน้ำตกวังคาวบอยจะได้สัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติอันสดชื่นทันที ด้วยเป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี อีกทั้งริมน้ำมีต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านมอบความร่มรื่น ซึ่งน้ำตกวังคาวบอยมีน้ำเย็นและใสมาก เป็นที่เที่ยว Unseen จึงไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวในวันธรรมดามากนัก ทำให้พักผ่อนแบบให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวได้ นอกจากนี้จะใช้บริการร้านอาหารที่อยู่ภายในบริเวณนั้น หรือจะนำอาหารเข้าไปทานเองก็ได้ มีโต๊ะที่นั่งให้เลือกโดยรอบ มีบริการห่วงยางให้เช่า จึงยิ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนเป็นแก๊ง นั่งเล่นนอนเล่นแช่น้ำแบบชิลๆ ได้เลย ที่สำคัญน้ำตกวังคาวบอยอยู่ไม่ไกลจากน้ำตกวังเณรอีกด้วย ด้วยระยะห่างกันเพียง 2 กม. หากได้ไปเที่ยวถือว่าคุ้มแน่นอน น้ำตกวังคาวบอยแห่งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่แนะนำให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้มาเยี่ยมเยือนสักครั้ง

• ที่ตั้ง : น้ำตกวังคาวบอย ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา 30410
• เวลาให้บริการ : ไม่กำหนดเวลาเปิด-ปิด
• เงื่อนไขการเข้าชมสถานที่ : –
• ข้อมูลติดต่อ : –

6. ไร่มณีศร ทุ่งทานตะวัน

ทุ่งทานตะวันของไร่มณีศร เป็นทุ่งทานตะวันขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างขวางมากกว่า 500 ไร่ ซึ่งถ้าเข้าสู่ฤดูกาลที่ดอกทานตะวันบานเมื่อไร ทุ่งแห่งนี้จะเต็มไปด้วยดอกทานตะวันสีเหลืองงดงามที่กำลังบานสะพรั่งสุดลูกหูลูกตา ไร่มณีศรจึงมีการบริหารจัดการเพื่อบริการต้อนรับนักท่องเที่ยวตามฤดูกาล รวมถึงจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างเป็นระยะ โดยมีแลนด์มาร์คที่ตั้งอยู่กลางไร่ คือ หลักกิโลเมตร ที่เขียนว่า “ทุ่งทานตะวัน ไร่มณีศร เขาใหญ่ ก.ม.0” เป็นจุดถ่ายภาพเก็บบรรยากาศโดยรอบ ด้วยความสวยงามของดอกทานตะวันทำให้มีนักท่องเที่ยวที่เฝ้ารอคอยให้ถึงช่วงหน้าหนาวเป็นประจำทุกปี ทุ่งทานตะวัน ไร่มณีศร จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปแวะชมไม่ขาดสาย หากใครได้ไปเที่ยวด่านขุนทดแล้วอยากถ่ายกับ สวนดอกไม้ที่เขาใหญ่ ก็ขอแนะนำให้ลองแวะไปชมทุ่งทานตะวันแห่งนี้ด้วยเช่นกัน

• ที่ตั้ง : ไร่มณีศร ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30130 สามารถเดินทางโดยผ่านสระบุรีแล้วเลี้ยวขวา เข้าสู่ถนนมิตรภาพ ขับตามเส้นทางถนนธนะรัชต์ที่มุ่งเข้าสู่เขาใหญ่ไปเรื่อยๆ จนถึงหลักกิโลเมตรที่ 7 เลี้ยวซ้าย ขับต่อไปอีก 3 กม.จะพบสามแยกให้เลี้ยวขวา ก่อนถึงทุ่งทานตะวันจะต้องผ่านโรงแรมโบนันซ่า และวัดหมู่บ้านคลองเสือ
• เวลาให้บริการ : เปิดให้เข้าชมช่วงดอกทานตะวันบาน ประมาณเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เวลา 06.00 – 18.00 น.
• เงื่อนไขการเข้าชมสถานที่ : ค่าธรรมเนียมเข้าชม ชาวไทย 40 บาท ขาวต่างชาติ 80 บาท
• ข้อมูลติดต่อ : โทร. 098-301-9051 เพจFacebook

7. ไร่องุ่นกรานมอนเต้

ไร่องุ่นกราน-มอนเต้ เป็นหนึ่งในไร่องุ่นแถวเขาใหญ่ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของอำเภอปากช่อง เปิดให้บริการเต็มรูปแบบตลอดทั้งปี ซึ่งช่วงที่บรรยากาศดีที่สุดคือช่วงหน้าหนาว จะมีนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวกันอย่างคึกคัก ประมาณเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ ไร่องุ่นแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ โดยองุ่นที่ปลูกจะนำไปผลิตไวน์เกือบ 100% ผลิตทั้งไวน์แดงและไวน์ขาว จุดเด่นของไร่องุ่นแห่งนี้คือทัศนียภาพของต้นองุ่นที่ปลูกเรียงรายอย่างสวยงามทอดยาวไปจนสุดสายตา และนักท่องเที่ยวทุกคนสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการเพาะปลูกองุ่น การตัดแต่งกิ่งองุ่น การเก็บเกี่ยว รวมถึงกรรมวิธีการผลิตไวน์ได้ สามารถเดินเล่นชมบรรยากาศดีๆ ถ่ายรูปสวยๆ ภายในไร่องุ่นใจกลางเขาใหญ่ และนอกจากไร่องุ่นแล้ว กราน-มอนเต้ยังมีร้านขายของที่ระลึก Montino Shop ซึ่งมีผลิตภัณฑ์จากองุ่น เช่น ไวน์ แยม ไพน์ เบเกอรี เป็นต้น อีกทั้งร้านอาหาร Vin Cotto Restaurant ที่มีบริการอาหารไทยและอาหารยุโรปให้เลือกหลากหลายเมนู และบริการห้องพักสุดหรูไว้รอคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว

• ที่ตั้ง : 52 ม.9 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30320 สามารถใช้เส้นทางจากถนนมิตรภาพ มุ่งสู่ปากช่อง – มวกเหล็ก เห็นป้ายร้านแดรี่โฮมเลี้ยวซ้าย ขับตรงไปประมาณ 12 กม. ก็จะถึงไร่องุ่นกราน-มอนเต้
• เวลาให้บริการ : 07.30 – 20.00 น.
• เงื่อนไขการเข้าชมสถานที่ : ทัวร์ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ ผู้ใหญ่ 450 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 350 บาท
• ข้อมูลติดต่อ : โทร. 092-806-7755 เว็บไซต์ เพจFacebook

8. น้ำผุดปากช่อง

น้ำผุดปากช่อง หรือน้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้าง เป็นตาน้ำที่มีน้ำผุดออกมาตลอดทั้งปี โดยน้ำที่ผุดมาจากน้ำฝนที่ตกซึมเข้าไปใต้ดิน และได้รับการกรองจากหินที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตสูงก่อนที่จะผุดขึ้นมา จึงทำให้น้ำมีความใสจนมองเห็นพื้นด้านล่าง และมีสีออกเป็นสีฟ้าเขียวคล้ายสระมรกต ที่จ.กระบี่ ซึ่งน้ำผุดจะมีชั้นลดหลั่นกันไป 4 ชั้น และมีฝายกั้นน้ำที่ทำเป็นน้ำตกเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ ยกเว้นบริเวณตาน้ำที่ไม่อนุญาตให้ลงเล่น น้ำผุดปากช่องจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะแก่การหลบร้อนมาผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ นอกจากสามารถเล่นน้ำแล้ว ยังเหมาะแก่การมานั่งปิกนิก มีร้านค้า ร้านอาหารหลายร้านพร้อมให้บริการเรียงรายโดยรอบ สามารถซื้ออาหารเข้ามานั่งทานข้างในได้ อีกทั้งยังมีกิจกรรมยอดฮิตอย่างการพายเรือคายัคอีกด้วย หากนักท่องเที่ยวไม่สะดวกพายเรือเอง สามารถติดต่อสมาชิกชุมชนท่องเที่ยวบ้านท่าช้างที่จุดบริการได้เลย

• ที่ตั้ง : น้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้าง ซ.โยธาธิการ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หากเดินทางจากถนนมิตรภาพมุ่งเข้าสู่ถนนธนะรัชต์ ประมาณ 15 กม. จะพบป้าย “น้ำพุธรรมชาติ” ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยนั้น เข้าไปอีก 1 กม. น้ำผุดปากช่องจะอยู่ทางขวามือ
• เวลาให้บริการ : 9.00 – 15.00 น.
• เงื่อนไขการเข้าชมสถานที่ : เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับบริการจ้างพายเรือคายัค 170 บาท/คน
• ข้อมูลติดต่อ : โทร. 061-1562636 ผู้ประสานงานชุมชนบ้านท่าช้าง (คุณแตน)

9. สะพานไม้อายุ 100 ปี

หากใครไปเที่ยวด่านขุนทด ผ่านมาอย่าลืมแวะชมสะพานไม้อายุ 100 ปี ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัด ด้วยเป็นสะพานไม้ที่มีอายุกว่า 100 ปีตามชื่อ ทอดตัวยาวไปในทุ่งนาข้าว มีระยะทางกว่า 1 กม. ระหว่างทางมีจุดชมวิวและแลนด์มาร์คให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเก็บวิวและบรรยากาศสวยๆ สบายตา เป็นที่ระลึก โดยช่วงปลายฝนต้นหนาว ชาวบ้านจะมีการประดับแสงไฟที่สะพาน ให้ได้ชมพระอาทิตย์ตกดินพร้อมบรรยากาศเย็นๆ แบบโรแมนติก ทั้งนี้สะพานไม้ 100 ปีมีความสำคัญกับชุมชน เพราะแสดงให้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านดั้งเดิมที่เดินทางสัญจรไปมาระหว่างหมู่บ้าน และขนย้ายผลผลิตทางการเกษตรมาตั้งแต่อดีตผ่านสะพานแห่งนี้ ปัจจุบันชาวบ้านจึงช่วยกันดูแลและอนุรักษ์ให้คงอยู่มาจนกลายเป็นหนึ่งในที่เที่ยวของโคราชที่ไม่ว่าใครก็ควรจะมาเที่ยวสักครั้ง

• ที่ตั้ง : ม.1 บ้านโคกกระชาย ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา 30250 ถ้ามาจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นถนนรังสิต-นครนายก ตรงไปปราจีนบุรี เลี้ยวซ้านเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 304 ไปวังน้ำเขียว ตรงไปทางหลวงหมายเลข 3115 พอถึง อ.เฉลียง ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 4040 เมื่อเจอวัดโคกกระชาย เลี้ยวขวาอีกที ขับตรงไป 200 เมตร ก็จะถึงสะพานไม้ 100 ปี
• เวลาให้บริการ : 05.00 – 19.00 น.
• เงื่อนไขการเข้าชมสถานที่ : ไม่มีค่าใช้จ่าย
• ข้อมูลติดต่อ : –

10. อาร์ต มิวเซียม 

สำหรับคนรักศิลปะ อาร์ต มิวเซียมแห่งนี้ต้องเป็นที่เที่ยวที่ถูกใจแน่นอน อาร์ต มิวเซียม เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงงานศิลปะและลานประติมากรรมกลางแจ้งบนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ซึ่งคุณพงษ์ชัย จินดาสุข ได้เก็บรวบรวมผลงานต่างๆ ไว้มากมาย จากศิลปินชื่อดังหลายท่าน ทั้งอ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์, อ.ถวัลย์ ดัชนี, อ.ช่วง มูลพินิจ, อ.ชลูด นิ่มเสมอ, อ.ประเทือง เอมเจริญ, อ.ประหยัด พงษ์ดำ, อ.ปรีชา เถาทอง เป็นต้น ภายในพิพิธภัณฑ์มีห้องแสดงงานศิลปะ 3 ห้อง โดยห้องแรกจัดแสดงภาพวาดเทคนิคต่างๆ ห้องสองจัดแสดงงานแบบปูนปั้น ส่วนห้องสามเป็นห้องรวบรวบงานระดับอาจารย์ที่ได้กล่าวไป และมีงานประติมากรรมกลางสวน ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ ให้ได้เดินชมและฉุกคิดตามจินตนาการของแต่ละคนอีกด้วย นอกจากงานศิลปะแล้ว ที่นี่ก็ยังมีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก คาเฟ่ รวมถึงบ้านพัก Art Space ซึ่งมีเพียง 6 หลัง ที่นำศิลปะมาแต่งเติมให้เข้ากับสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์น รับรองถูกใจผู้ที่เสพงานศิลป์อย่างแน่นอน หากใครจะไปเที่ยวคนเดียวหรือพาแฟนไปเที่ยวต่างจังหวัดตามสไตล์สายอาร์ต ขอแนะนำให้ลองมาเยี่ยมชมงานศิลป์และเสพบรรยากาศดีๆ ณ อาร์ต มิวเซียมแห่งนี้

• ที่ตั้ง : บ้านท่าช้าง ซ.6 ม.16 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30130 สามารถเดินทางด้วยถนนธนะรัชต์ ผ่านร้านครัวเขาใหญ่ ก่อนถึง Palio ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางแยกป้อมตำรวจหมูสี พอถึงวงเวียนใหญ่เลี้ยวขวาไปทางวัดท่าช้าง ตรงไปเรื่อยๆ สักพักเลี้ยวเข้าไปก็จะถึงอาร์ต มิวเซียม
• เวลาให้บริการ : 9.00 – 17.00 น.
• เงื่อนไขการเข้าชมสถานที่ : ไม่มีค่าธรรมเนียมเข้าชม
• ข้อมูลติดต่อ : โทร. 081-440-0202 อีเมล khaoyai.artspace@gmail.com เพจFacebook

สรุป

จากที่ได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมด 10 แห่ง จะเห็นได้ว่ามีทั้งที่เที่ยวในด่านขุนทด และที่เที่ยวบริเวณอำเภออื่นๆ ที่น่าสนใจ ทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา วัฒนธรรม การเกษตร ธรรมชาติ หรือแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เพราะนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์ไม่ซ้ำใคร จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง ซึ่งเหมาะกับการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจทุกรูปแบบทั้งครอบครัว คู่รัก หรือแก๊งเพื่อน อีกทั้งแหล่งท่องเที่ยวเหล่านั้นยังติดอันดับต้นๆ ของสถานที่เที่ยวธรรมชาติภาคอีสานอีกด้วย หากมีเวลาไปเที่ยวตามรอยบทความนี้ รับรองจะหลงเสน่ห์จากการเที่ยวด่านขุนทดและอำเภออื่นๆ ในจังหวัดนครราชสีมาอย่างแน่นอน